“…รวมวงเงินที่ใช้ไปกับงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับบ้านพิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2558 – 2563 มีจำนวน 23 โครงการ รวมวงเงินกว่า 160 ล้านบาท ขณะที่งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงบ้านพิษณุโลก สัญญาล่าสุด ระยะที่ 3 ของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร โดยกองทัพบก วงเงิน 37.9 ล้านบาท ลงนามในสัญญา วันที่ 29 มี.ค. 62 สิ้นสุดสัญญาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา …”
นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญของประเทศ นอกจากเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญกำหนดให้บริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังมีฐานะเป็นผู้นำประเทศ ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งครอบครัวมีส่วนสำคัญ และมีหน้าที่จัดการดูแลความปลอดภัยให้แก่นายกรัฐมนตรี และครอบครัวตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์ การจัดบ้านพักรับรองที่มีความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว สร้างสภาพสุขกาย สุขใจ การปฏิบัติภารกิจบริหารประเทศ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐพึงจัดให้มีที่พำนักให้แก่ผู้นำประเทศกรณีดำรงตำแหน่ง
สำหรับประเทศไทย ในอดีตเคยกำหนดสถานที่บางแห่งเป็นที่พำนักนายกรัฐมนตรี เช่น บ้านพิษณุโลก แต่ปัจจุบันการบำรุงรักษายังไม่พร้อมใช้ หรือจัดให้มีใหม่ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ผู้นำประเทศสมเกียรติ รัฐจึงจัดให้มีที่พำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่กองทัพบกอนุมัติให้ใช้บ้านพักรับรอง สนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปา ได้รับสิทธิตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 เป็นกฎที่ยังคับใช้บังคับอยู่ ยังมิได้ถูกยกเลิกหรือเพิกถอน
คือ หนึ่งในคำวินิจของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องพิจารณาที่ 8/2563 กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่ จากการอยู่อาศัยในบ้านพักราชการทหาร ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) หรือไม่
ก่อนที่จะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ราย มีมติเป็น ‘เอกฉันท์’ ว่า พฤติการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ความเป็นรัฐมนตรีจึงไม่สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
น่าสนใจว่า การบำรุงรักษา บ้านพิษณุโลก ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ช่วงปี 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณตำแหน่ง ผบ.ทบ. เป็นอย่างไรบ้าง?
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างในเว็บไซต์ภาษีไปไหน พบข้อมูลดังนี้
ปี2557-2558 มีงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องจำนวน 13 โครงการ รวมวงเงิน 113.28 ล้านบาท
ปี 2559 มีงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องจำนวน 1 โครงการ รวมวงเงิน 256,766.83 บาท
ปี 2560 -ไม่มีข้อมูลแสดง-
ปี 2561 มีงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องจำนวน 1 โครงการ รวมวงเงิน 155,685.00 บาท
ปี 2562 มีงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องจำนวน 6 โครงการ รวมวงเงิน 40.44 ล้านบาท
ปี 2562-2563 มีงานว่าจ้างจำนวน 2 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 6.78 ล้านบาท
รวมวงเงินที่ใช้ไปกับงานว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับบ้านพิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2558 – 2563 มีจำนวน 23 โครงการ รวมวงเงินกว่า 160 ล้านบาท
ขณะที่งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงบ้านพิษณุโลก สัญญาล่าสุด ระยะที่ 3 ของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร โดยกองทัพบก วงเงิน 37.9 ล้านบาท ลงนามในสัญญา วันที่ 29 มี.ค. 62 สิ้นสุดสัญญาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา
จากนั้นเป็นต้นมา งานจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้องกับบ้านพิษณุโลกส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องการจ้างติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด และบำรุงรักษาสวนทำความสะอาดเป็นหลัก
Cr : https://www.isranews.org/article/isranews/93906-repoert-9.html