คุก 4 ปี 12 ด.! ศาลอุทธรณ์ พิพากษาโทษอดีตนายกอบต.หัวนา หนองบัวฯ เรียกเงินช่วยเข้าทำงาน

101

ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘คำภู คะสุวรรณ’ อดีตนายกอบต. หัวนา หนองบัวลำภู เรียกรับเงินค่าตอบแทนช่วยเข้าทำงานโดยไม่ต้องสอบ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ลงโทษจำคุกเหลือ 4 ปี 12 เดือน พวกอีก 2 ราย โดนด้วย 1 ปี 8 เดือน กับ 2 ปี 16 เดือน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายคำภู คะสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู กับพวก 2 ราย คือ นายสมเกียติ บัวขาว และนายสุริยา ชัยคต เรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการช่วยให้เข้าทำงานในอบต.หัวนา โดยไม่ต้องสอบ

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157 และ 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2563 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก นายสุริยา ชัยคต จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน ไม่รอการลงโทษ

พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุก นายคำภู คะสุวรรณ จำเลยที่ 1 กระทงละ 5 ปี และ จำคุก นายสมเกียติ บัวขาว จำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน

ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุก นายคำภู คะสุวรรณ จำเลยที่ 1 กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง เป็น 4 ปี 12 เดือน

คงจำคุกนายสมเกียติ บัวขาว จำเลยที่ 2 กระทงละ 1 ปี 8 เดือน รวม 2 กระทงเป็น 2 ปี 16 เดือน

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Credit : https://www.isranews.org/article/isranews/93125-news03-56.html

 

- Advertisement -