เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ศาลล้มละลาย นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยดำเนินการฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอว่า นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการฟื้นฟู หลังจากการบินไทยมีความเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว หลังจากนี้คณะผู้ทำแผนจะดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลได้เร็วที่สุดภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยประมาณต้นปี 2564 เมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผนภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 แล้ว การบินไทยจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป
นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเจ้าหนี้นั้น กรมบังคับคดีจะดำเนินการแจ้งเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ทราบถึงคำสั่งศาล โดยเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่มีการประกาศคำสั่งตั้งผู้ทำแผนลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อไม่ให้เสียสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้คืน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนแล้ว เจ้าหนี้สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้เลยทางออนไลน์จนถึง 1 เดือนนับแต่ที่คำสั่งศาลได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเจ้าหนี้สามารถลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่บ้านผ่านทางเว็บไซต์ http://www.led.go.th/tgreorg/index.asp หรือ QR Code หรือสามารถมายื่นขอรับชำระหนี้ที่จุดบริการ ได้แก่ บริษัทการบินไทยฯ สำนักงานใหญ่, กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์, สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ, ศูนย์บังคับคดีล้มละลายส่วนหน้า (ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคารเอ), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) (สำหรับหุ้นกู้) และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนนครอินทร์ (สำหรับหุ้นกู้กลุ่มสหกรณ์)
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า เจ้าหนี้ที่มีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของการบินไทยนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ที่เป็นหนี้เงินโดยหนี้ดังกล่าวจะต้องเกิดก่อนวันที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ก็ตาม ซึ่งรวมถึงหนี้การค้า หนี้ค่าเช่า หนี้หุ้นกู้ ในส่วนของเจ้าหนี้หุ้นกู้นั้น การบินไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเว็บไซต์ให้ผู้ถือหุ้นกู้ของการบินไทยสามารถตรวจสอบจำนวนหนี้หุ้นกู้ได้ที่ www.tgbondinfo.com สำหรับลูกค้าที่ได้แสดงความประสงค์ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร (Refund) ของการบินไทยจะได้รับชำระหนี้ตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการโดยไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ก็ได้ ทั้งนี้ การบินไทยจะแจ้งให้เจ้าหนี้ได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อไป
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่าแผนฟื้นฟูจะทำให้ปลดล็อกการบินไทยได้ภายใน 5 ปี นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ปัญหาของการบินไทยสะสมมานานทั้งระบบงาน การแข่งขันจากภายนอก การลงทุน รวมถึงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้ผู้โดยสารหายไป แต่วันนี้มีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการไฟลท์บินภายในประเทศและชาเตอร์ไฟลท์ นอกจากนี้ ยังมีครัวการบินที่เพิ่งเปิดให้บริการ ก็เริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่มากเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อถามว่า ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูฯ จะมีการขอกู้สินเชื่อเพิ่มหรือไม่ นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามแผนฟื้นฟูฯ ที่ได้อนุมัติแล้ว คาดว่า 5 ปีจะสามารถปลดล็อกได้ แต่เจ้าหนี้ก็ต้องยินยอมลดทุนลดหนี้ด้วย ซึ่งการบินไทยมีเจ้าหนี้รายใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีการลงทะเบียนยื่นขอชำระหนี้จากเจ้าหนี้แล้ว จะเห็นตัวยอดหนี้ที่แท้จริง คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่มาก
”แผนการบินและเน็ตเวิร์คขึ้นอยู่กับดีมานด์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่เหมือนเดิม เพราะในต่างประเทศยังมีเชื้อไวรัสโควิดระบาดอยู่ ผู้ที่ต้องการเดินทางจริงๆ ต้องมีความ จึงยังตอบไม่ได้ ต้องรอจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ก่อน แต่การบินไทยมีความสามารถ มีทรัพยากรที่ดีได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ คาดว่าการบินจะทยอยกลับมาเหมือนเดิมภายใน 4-5 ปี” นายชาญศิลป์ กล่าว
สำหรับรายชื่อคณะผู้ทำแผนฟื้นฟู ประกอบด้วย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน, นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และบริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด
Credit : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2347518