ชุดปราบปรามของฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี ร่วมกับปลัดอำเภอบางละมุง ยกกำลังเข้าปิดล้อม “บาร์โฮส”ชื่อดังย่านพัทยาใต้ เจอนักเที่ยวสาวกำลังนัวเนียสนุกสนานอยู่ด้านใน จึงสั่งให้ดีเจปิดเพลง-เปิดไฟ พร้อมกับตรวจบัตรประชาชนและสารเสพติด พบนักเที่ยวมีฉี่สีม่วง 3 ราย จึงแจ้งข้อหาและควบคุมตัวผู้ที่อ้างเป็นคนดูแลร้านไปดำเนินคดีข้อหาเปิดบาร์เถื่อนโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมกับเร่งสืบในทางลับว่าเจ้าของบาร์ตัวจริงคือใคร?
ผู้ว่าฯชลบุรี สั่งให้ปลัดอำเภอ และป้องกันจังหวัดฯ ลุยตรวจสถานบันเทิงทำตัว“นอกคอก”เพื่อขับเคลื่อนปฏิบัติการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.256 ภายใต้สโลแกน “ชลบุรีเที่ยวสุขใจ ปลอดภัยจากยาเสพติด” ให้เป็นไปตามแผนแม่บทที่วางไว้
โดยเมื่อเวลา 03.45 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 จ่าเอกพิทยา ก่อแก้ว ปลัดอำเภอบางละมุง รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอบางละมุง และว่าที่ ร.ต. ชลธิศ เลยานนท์ ป้องกันจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา,พ.ต.ต.อภินันท์ บุญยรัตน์ สวป.สภ.เมืองพัทยา ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราม สภ.เมืองพัทยา,เจ้าหน้าที่ ศอ.ปส.จ.ชบ. สมาชิก อส. กองร้อยบริการและบังคับการจังหวัดชลบุรี และสมาชิก อส.อ.บางละมุง
เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ชื่อว่า “ร้านทองหล่อ 8 พัทยา” ลักษณะเปิดเป็น “บาร์โฮสต์” หรือที่ในหมู่ผีเสื้อราตรีเรียกกันว่า “บ้านผู้ชายป้ายเหลือง” ที่มีพนักงานชายคอยบริการนักเที่ยวสาว ตั้งอยู่ในย่านพัทยาใต้ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากสืบสวนด้านการข่าวแล้วพบว่ามีการกระทำผิดกฏหมายอย่างชัดเจน
อีกทั้งยังมีประชาชนส่งหลักฐาน ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ว่า บาร์โฮสแห่งนี้ เปิดบริการยันเช้า ถึง 09.00-10.00 น. ทุกวัน สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน และสร้างภาพลบให้กับเมืองพัทยา
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าร้าน “ทองหล่อ 8 พัทยา” ภายในร้านยังเปิดให้บริการเปิดเพลงดังกระหึ่ม สลับกับเปิดไฟแสงสีในความมืดสลัวจนตาลาย โดยมีเหล่าผีเสื้อราตรีส่งใหญ่เป็นผู้หญิง และพนักงานที่เป็นชายหนุ่มหล่อล่ำกำยำ กำลังเต้นโยกย้ายนัวเนียตามจังหวะดนตรี คลอเคล้าด้วยเหล้าเบียร์ อย่างเมามันส์
เจ้าหน้าที่จัดแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดๆหนึ่งทำหน้าที่ปิดล้อมทุกด้านไว้ อีกชุดทำหน้าที่เป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน”บุกชาร์จเข้าไปแบบไม่ให้ได้ทันตั้งตัว พร้อมสั่งให้ดีเจ ปิดเครื่องเสียง เปิดไฟ ยุติทั้งหมด ก่อนจะจับแยกพนักงานชายและนักเที่ยวออกจากกัน แล้วขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายนักเที่ยวและพนักงาน จำนวน 60 ราย พบนักเที่ยวมีสารเสพติด จำนวน 3 ราย
ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุม นายสุรวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี รับสมอ้างว่าเป็นผู้ดูแลร้าน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
1. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยวิธีการลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย ตามมาตรา 30 (3) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
3. จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับทำบันทึกจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการ และการสั่งการของนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายอดิเรก อุ่นโอสถ ปลัดจังหวัดชลบุรี โดยมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแผนขับเคลื่อนปฏิบัติการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.256 ภายใต้สโลแกน “ชลบุรีเที่ยวสุขใจ ปลอดภัยจากยาเสพติด” ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด และ กระทรวงมหาดไทย
อธิบดี บุญชารี รายงาน