“…การลงนามว่าจ้างบริษัท PestFix มูลค่า 108 ล้านปอนด์ เพื่อให้ดำเนินการจัดหาชุด PPE ให้กับหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีระยะเวลา 12 เดือน อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท PestFix เป็นบริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจกำจัดปลวก ซึ่งมีการบริหารในลักษณะกิจการของครอบครัว มีพนักงานอยู่แค่ 16 คนเท่านั้น และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 18,000 ปอนด์ (718,019 บาท)…”
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ประจำสัปดาห์นี้ ยังคงอยู่กับประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างอันเกี่ยวกับโรคโควิด-19
เมื่อสื่อในประเทศอังกฤษได้รายงานข่าวกรณีหน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษ ทำสัญญาจัดซื้อชุดป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 หรือชุด PPE กับบริษัทกำจัดปลวกแห่งหนึ่ง มูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 108 ล้านปอนด์ (4,307,435,226 บาท) ทั้งที่ บริษัทฯ แห่งนี้ มีพนักงานแค่ 16 คนเท่านั้น
ระบุข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัททัสเซล (Tussell) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่ทำหน้าที่ติดตามการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลอังกฤษ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้เสนอสัญญาให้กับบริษัทเอกชนต่างๆจำนวนรวมกว่า 400 สัญญา เป็นมูลค่าสัญญารวมทั้งสิ้น 1.7 พันล้านปอนด์ (771,107,029 ล้านบาท) เพื่อว่าจ้างให้จัดหาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันโรค การทดสอบอุปกรณ์ตรวจสอบการติดเชื้อโควิด รวมไปถึงการให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานราชการ
ทั้งนี้ การจัดทำสัญญาว่าจ้างดังกล่าว อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ในประเทศอังกฤษที่กำลังรุนแรง จึงทำให้สัญญาส่วนมากต้องมีการจัดทำเร่งด่วน และการเซ็นสัญญาในหลายกรณี ผู้ชนะการประกวดราคาก็เป็นผู้เข้าแข่งขันเพียงแค่รายเดียวในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
ซึ่งหนึ่งในสัญญาเหล่านี้ มีการลงนามว่าจ้างบริษัท PestFix มูลค่า 108 ล้านปอนด์ เพื่อให้ดำเนินการจัดหาชุด PPE ให้กับหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีระยะเวลา 12 เดือน
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท PestFix เป็นบริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจกำจัดปลวก ซึ่งมีการบริหารในลักษณะกิจการของครอบครัว มีพนักงานอยู่แค่ 16 คนเท่านั้น และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 18,000 ปอนด์ (718,019 บาท)
ขณะที่นายแดน อิงด์แลนด์ ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทที่มีขนาดใหญ่โตกว่าบริษัทฯ ของเขา อาจจะมีปัญหาเรื่องการส่งสินค้าที่ล่าช้า หรือไม่ได้กระตือรือร้นในการส่งสินค้าเท่ากับบริษัทก็ได้
แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า สัญญามูลค่าจำนวน 108 ล้านปอนด์นั้นใหญ่โตเกินไปสำหรับการทำธุรกิจบริษัทของเขาหรือไม่
ส่วนข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้นั้นมีการอ้างบนเว็บไซต์บริษัทฯ ว่า นอกจากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับการกำจัดปลวกหรือสัตว์รบกวนแล้ว ยังมีธุรกิจการขายอุปกรณ์เสริมสำหรับกิจกรรมยิงปืนด้วย
ขณะที่รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าชุด PPE นั้น มีอยู่ด้วยกัน 21 รายการ (ดูภาพประกอบ)
ที่ตั้งของบริษัท (อ้างอิงรูปภาพจากสำนักข่าวเดลี่เมล์)
ขณะที่โฆษกกรมสุขภาพของอังกฤษ ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการนำเสนอข่าวของ The Sunday Times ที่วิจารณ์การซื้อชุด PPE ของกรมสุขภาพว่ามีราคาสูงเกินไป ว่า ที่ผ่านมากรมสุขภาพฯ ได้พยายามที่จะดำเนินนโยบายเพื่อที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีชุด PPE มากเพียงพอ ที่จะทำให้บุคลากรสาธารณสุขของอังกฤษสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย
ส่วนนางเม็ก ฮิลเลอร์ ส.ส.พรรคแรงงาน และประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ระบุว่า จะตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างทุกสัญญาของรัฐบาลอังกฤษว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะแม้ว่าการจัดซื้อชุด PPE นั้นจะเป็นความจำเป็นอันเร่งด่วน และมีความสำคัญยิ่ง แต่การยื่นประมูลงาน ในสภาวะที่อยู่นอกเหนือจากกติกาปกตินั้นก็ทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นอย่างมาก
นางเม็ก ฮิลเลอร์ ส.ส.พรรคแรงงาน และประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://www.hackneygazette.co.uk/)
เช่นเดียวกับ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (National Audit Office) ก็ออกมาระบุว่าจะดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อของรัฐบาลเช่นกัน