กรมป่าไม้ แจ้งความ บก.ปทส. กล่าวหา ‘สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’ บุกรุกป่าสงวนกว่า 450 ไร่ ดำเนินคดี จนท.รัฐเกี่ยวกับกับการออกเอกสาร น.ส.3 ก อีก 55 ไร่ เสนอกรมที่ดินเพิกถอนอีก 2,000 ไร่ ยันดำเนินการรัดกุมที่สุด – ‘วราวุธ’ ยันไม่ได้ดูตัวบุคคล ใครผิดดำเนินคดีทั้งหมด
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 สื่อหลายสำนักรายงานอ้างว่า กรมป่าไม้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า) และผู้เกี่ยวข้อง ในข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 450 ไร่ และแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 ก จำนวน 55 แปลง นอกจากนี้ยังเสนอให้กรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 ก ของนางสมพร อีกประมาณ 2,000 ไร่
รายงานข่าวอ้างอีกว่า นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ได้รวบรวมหลักฐานข้อมูลให้ครบถ้วน และรัดกุมที่สุดในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นางสมพร และผู้เกี่ยวข้องในกรณีข้างต้น โดยชุดปฏิบัติการ จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ต่อผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ทุกฉบับ ให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 ธ.ค. 2563 นี้
รายงานข่าวระบุว่า กรณีดังกล่าวศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) ได้มอบหมายการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานเพื่อปฎิบัติการร่วมตรวจสอบการถือครองที่ดินแบบผิดกฎหมายของกลุ่มทุนทั่วประเทศ โดยกรณีการครอบครองที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในท้องที่จังหวัดราชบุรี มีการร้องเรียนจาก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
‘วราวุธ’ยันไม่ได้ดูตัวบุคคล-ใครผิดจะดำเนินคดีถึงที่สุด
ขณะที่ไทยโพสต์ออนไลน์ รายงานว่า วันเดียวกันนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมป่าไม้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ รุกป่าสงวนในพื้นที่ จ.ราชบุรี 450 ไร่ พร้อมเสนอเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ นส. 3 ก จำนวน 2,000 ไร่ ว่า ในการทำงานของกระทรวงทรัพยากรฯ เราไม่ดูที่ว่าเป็นใครหรือฝ่ายใด เราดูแค่ว่าทรัพย์สมบัติของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นป่าสงวนหรือป่าอนุรักษ์นั้นได้มีการบุกรุกหรือไม่ และถ้ามีการบุกรุกขึ้นมา กระทรวงในฐานะที่เป็นเจ้าทุกข์ก็จะมีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกคดีที่มีการร้องเรียนกระทรวงทรัพยากรฯ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เราไม่ได้ประวิงเวลาหรือเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดทั้งนั้น เราดำเนินคดีตามกฎหมายและเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีมี 2 มาตรฐาน หรือเลือกที่รักมักที่ชังอย่างแน่นอน เราให้ความยุติธรรมและดำเนินคดีโดยไม่ได้ดูที่ตัวบุคคล (อ้างอิงข่าวจาก : https://www.thaipost.net/main/detail/88403)
เผยผลการตรวจสอบที่ดิน’สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’
วันเดียวกัน สื่อหลายสำนักรายงานอ้าง นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) ได้ประสานสั่งการให้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าขยายผลตรวจสอบ และตั้งแต่ช่วงวันที่ 7-28 ธ.ค. 2563 คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาหน่วยฯ ,นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ,นายคม ศรีสวัสดิ์ ผอ.ศปป.1 (ภาคกลาง) ,จนท.ศปป. 4 กอ.รมน. และ จนท.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.5บก.ปกส.) ,นายนิทรรศ เวชวินิจ ผอ.สจป. 10 (ราชบุรี),ผอ.ศ.ปม.ราชบุรี ,หน.รบ1(จอมบึง) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขยายผลสืบสวน สอบสวนต่อเนื่องจากข้อมูลเดิมที่ได้ดำเนินการไว้
ผลการตรวจสอบจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2563 พบว่า 1.มีการนำเอกสารสิทธิที่ดินที่เกี่ยวข้อง 77 แปลง (ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 43-0-64 ไร่ ,น.ส.3 ก จำนวน 55 แปลง เนื้อที่ 2,010-22-00 ไร่ ,น.ส. 3 จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 694–2-63 ไร่ โดยมีเนื้อที่รวมทั้งหมดกว่า 3,098 ไร่เศษ
2.ตรวจสอบพบที่ดินทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้าย แม่น้ำภาชี และซ้อนทับกับ เขตปฏิรูปที่ดิน ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ประกาศปี 2554 และไม่มีแผนงานพร้อมงบประมาณที่จะการดำเนินงาน จึงไม่มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ) และแปลงที่ดินทั้งหมดซ้อนทับในเขตป่าไม้ถาวร หมายเลขที่ 85 (ปี 2512)
3.จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า น.ส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับออกโดยไม่มีหลักฐานเดิม (ส.ค.1) เป็นการเดินสำรวจออกเมื่อปี 2521 ก่อนประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี 2527 แต่พื้นที่ดังกล่าวถูกประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวรหมายเลข 85 เมื่อปี 2512 ก่อนที่จะมีการออกเอกสาร นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับ ซึ่งทำให้เป็นเอกสารที่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น
4.จากพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่านางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มีเจตนาครอบครองที่ดิน น.ส 2 โดยการซื้อเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นแบบผิดกฎหมาย จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ (แปลงที่ดินดังกล่าวเป็นเอกสาร น.ส.2 เป็นประเด็นปัญหาซ้อนทับที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีการร้องเรียนของกลุ่มชาวบ้าน ม.14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ .ราชบุรี ที่มีแผนงานจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน และมีตัวแทนของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ออกมาร่วมตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย มีการยอมรับการครอบครองและแสดงเจตนามอบให้หมู่บ้านจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาครอบครอง น.ส.2 แบบผิดกฎหมายของนางสมพร)
5.ตรวจสอบพบว่านางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ครอบครองที่ดินมือเปล่าแบบผิดกฎหมาย (ภ.บ.ท.5) อีก 1แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ในท้องที่ ม.3 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจสอบพบหลักฐานใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จ่ายเงินค่าที่ดินมือเปล่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 90 ไร่ ในช่วงปี 2553-2556 ส่วนเอกสาร โฉนดที่ดิน 1 แปลงและ น.ส.3 อีก 14 ฉบับ ต้องขยายผลตรวจสอบ
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.thaipost.net/
Cr : https://www.isranews.org/article/isranews/94655-isranews-743.html