ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เพิ่มโทษ ‘ศรัทธาธรรม แจ้งฉาย’ กับพนักงานเชียร์แขก คนละ 50 ปี สั่งปรับสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท เฉียด 8 ล้าน-ชดใช้เด็กสาวคนละ 8 หมื่นบาท คดีค้าประเวณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2563 ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีค้ามนุษย์ อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท หมายเลขดำ คม.26/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 และเด็กสาวผู้เสียหายรวม 3 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท, นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ, นายชัยณรงค์ อันสุข หรือ ป๋าสง่า, นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือ พี่ป๊อป, หจก.อมรินทร์ ออนเซน, น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ที่นายศรัทธาธรรม หรือ ป๋าติ๊ก เป็นผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อค้ามนุษย์ในการค้าประเวณี ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 9, 10, 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 4, 9, 11 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 14, 27 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 283 ทวิ
กรณีเมื่อระหว่างต้นเดือน ธ.ค. 2560 – 12 ม.ค. 2561 พวกจำเลยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ามนุษย์ โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นธุระจัดหาหญิงสาวชาวไทย 2 คน และชาวเมียนมา 7 คน อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น โดยอัยการยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2561 พิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม หรือ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 1, นายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายชัยณรงค์ หรือ ป๋าสง่า จำเลยที่ 3, นายเอกณพัชร์ หรือ พี่ป๊อป จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นพนักงานเชียร์แขก มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาฯ ให้จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน ส่วน น.ส.ศศิธร หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อัมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย สำหรับ หจก.อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 และ บจก.เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำเลยที่ 7 ที่เป็นนิติบุคคลให้เช่าสถานที่ ก็พิพากษายกฟ้อง
โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว จำเลยที่ 1-4 และ 6 มาจากเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลางเพื่อฟังคำพิพากษา ขณะที่มีตัวแทนองค์กรด้านสตรีและต่อต้านการค้ามนุษย์มาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 68 ปี จำคุกจำเลยที่ 3-4 คนละ 62 ปี 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 6 รวม 68 ปี ปรับ 8,000 บาท และให้ปรับจำเลยที่ 5 จำนวน 3,978,666 บาท กับจำเลยที่ 7 จำนวน 3,970,666 บาท โดยตามกฎหมายแล้วให้ลงโทษจำคุกได้สูงสุด คนละ 50 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่เป็นเด็กสาวผู้เสียหายที่ 2-3 คนละ 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง
Cr : https://www.isranews.org/article/isranews/94060-isranews-243.html