คืบหน้าคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์รถไฟ 2.2 พันล้าน! ‘พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ ผบช.ก. เตรียมเปิดแถลงข่าวยุทธการ ‘ด่วนนรกซอมบี้’ 27 พ.ย.63 นี้ 10 โมง สรุปผลสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตร. ยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องการกระทำความผิด 26 จุด ทั้งในกทม.-ตจว. ได้ตัวผู้ต้องหา 9 ราย จับกุม 1 ราย มอบตัว 8 ราย -หลัง ‘อิศรา’ ตีข่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 60
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันที่ 27 พ.ย.2563 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จะเปิดแถลงข่าวยุทธการ “ด่วนนรกซอมบี้” คดีจับเครือข่ายทุจริตเงินสหกรณ์สโมสรการรถไฟ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังจากสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ายึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องจากการกระทำความผิดจำนวน 26 จุดทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด พร้อมได้ตัวผู้ต้องหาจำนวน 9 ราย โดยในจำนวนนี้เข้าทำการจับกุม 1 ราย มอบตัว 8 ราย
สำหรับคดีนี้ ประเด็นปัญหาสำคัญ คือ อดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวกรวม 6 ราย ได้ปล่อยเงินกู้ 199 สัญญา วงเงิน 2,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระทำผิดระเบียบสหกรณ์ที่กำหนดให้กู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท โดยปัจจุบันกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการแต่งตั้งข้าราชการเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องและการส่งชำระหนี้ของสอ.สรฟ.เสนอให้สหกรณ์เจ้าหนี้พิจารณา และการดำเนินคดีอาญาและแพ่งกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์แล้ว
โดยสำนักข่าวอิศรา ได้ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมาตั้งแต่ ช่วงปลายปี 2560 หลังจากสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ โดยนายประเสริฐ ศรีสะอาด ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ได้ออกประกาศแจ้งให้สมาชิกทราบว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมดำเนินคดีกับผู้ก่อตั้งและสมาชิกจำนวน 6 คนกรณีกู้เงินสหกรณ์โดยผิดระเบียบ
เนื้อหาระบุว่า “ตามที่ผู้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด มีนโยบายในการจัดหาที่ดินมาเป็นหลักประกันให้กับสหกรณ์ฯและคณะกรรมการฯ รวมทั้งเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับสมาชิก และได้ร่วมกับสมาชิกอีก 5 คน กู้เงินจากสหกรณ์ฯเพื่อนำเงินไปดำเนินการโครงการดังกล่าว ต่อมากรมส่งเสริมสหกรณ์แจ้งว่าการกู้เงินเพื่อไปพัฒนาที่ดินเป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์และผิดระเบียบฯ จึงให้คณะกรรมการฯเรียกเงินที่กู้ไปเกินกว่าระเบียบจากสมาชิกทั้ง 6 คน คืนสหกรณ์ฯ
ขณะนี้ คณะกรรมการชุดที่ 12 ได้จัดทำหนังสือเรียกเงินคืนจากสมาชิกทั้ง 6 คนแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเอกสารเพื่อยื่นฟ้องร้องดำเนินคดี จึงขอให้สมาชิกทุกท่านโปรดไว้วางใจในการดำเนินการของคณะกรรมการฯเพื่อติดตามนำเงินกลับมาคืนสหกรณ์ฯ โดยเร็วและหากมีความคืบหน้าในการดำเนินคดี จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป”
ก่อนที่สำนักข่าวอิศรา จะตรวจสอบพบเอกสารหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการปล่อยกู้เงินตามมาอีกหลายส่วน โดยเฉพาะสัญญากู้ยืมเงิน ที่พบว่าอดีตผู้บริหารฯ เริ่มมีการนำเงินออกจากสหกรณ์ไปจำนวน 343 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2552 โดยไม่ถูกต้องตามระเบียบ ก่อนที่ในช่วงปี 2559 จะถูกผู้สอบบัญชีอิสระตรวจสอบพบ และแจ้งเรื่องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามาตรวจสอบเป็นทางการ จึงมีการปรับปรุงแก้ไขการเรื่องการนำเงินออกไปให้ถูกต้อง จึงมีการจัดทำสัญญากู้เงินขึ้น จำนวน 199 สัญญา แต่สัญญาบางส่วนก็ยังมีปัญหาเรื่องหลักค้ำประกัน จึงมีการปรับแก้ไขสัญญาใหม่ เหลือจำนวน 43 สัญญา รวมวงเงินกู้กว่า 2.2 พันล้านบาท ในปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ จะต้องมีการเข้าไปดูรายละเอียดสัญญาทั้งหมด ว่ามีการจัดทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ เพราะเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าสัญญาบางฉบับ ผู้กู้ ผู้อนุมัติ ที่ลงนามในสัญญาเป็นคนๆ เดียวกัน บางฉบับผู้อนุมัติไม่มีอำนาจลงนามด้วย
พร้อมข้อสังเกตสำคัญว่า การดำเนินการดังกล่าว น่าจะมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับปัญหาต่างๆ ด้วย ก่อนที่ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะทำการสอบสวนและยืนยันว่า ข้าราชการของกรมฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการที่ไปเอื้อหรือไปดำเนินการให้อดีตกรรมการของ สอ.สรฟ. ไปฝากหรือกู้เงินจากสหกรณ์อื่น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องของการส่งเสริมสหกรณ์ปกติตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในส่วนคดีความอาญานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการออกหมายเรียกตัว ผู้ถูกกล่าวหาในคดี ทั้งหมด 6 ราย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมแสดงเอกสารประกอบ และขอให้การในชั้นศาลต่อไปแล้ว
Cr : https://www.isranews.org/article/isranews/93761-pinoiyh00.html