ชาวบ้านเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง รวมตัวนับร้อยคน เดินประท้วงยกเลิกการสร้างเขื่อน พร้อมปักหลักชุมนุมที่ศาลากลาง ชี้ถูกหลอกจากภาครัฐมาหลายปีว่าจะหยุดโครงการ แต่สุดท้ายกลับเดินหน้าก่อสร้าง เปิด 5 เหตุผลคาใจ ทำไมไม่ควรมีเขื่อนเหมืองตะกั่ว ประกาศเตรียมยกระดับบุกทำเนียบรัฐบาล
นายเดชา เหล็มหมาด ประธานกลุ่มรักษ์โตนสะตอ พร้อมด้วย นายสันติชัย ชายเกตุ เครือข่ายชมรมรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง ตัวแทนกลุ่มสภาองค์กรชุมชนระดับตำบล จ.พัทลุง และชาวบ้านหมู่ 1 ในพื้นที่ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง จำนวนประมาณ 100 คน ได้จัดกิจกรรมเดินชูป้าย พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด โดยยื่นต่อ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อขกให้ยกเลิกโครงการนี้ เพราะถือเป็นโครงการที่ไร้ประโยชน์
ชาวบ้านกลุ่มนี้บางส่วนได้ปักหลักประท้วงอยู่ที่ศาลกลางจังหวัดพัทลุงมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 ส.ค.63 พร้อมขีดเส้นตายภายในวันศุกร์ที่ 21 ส.ค. หากข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ก็พร้อมขึ้นไปประท้วงต่อที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
สำหรับอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เป็นโครงการของกรมชลประทาน ตามแผนจะก่อสร้างในพื้นที่ต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด หมู่ 1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน ใช้งบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดิน แต่สิ่งที่ชาวบ้านกลุ่มนี้คาใจก็คือ โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วที่กรมชลประทานกำลังผลักดันให้ก่อสร้าง อยู่ห่างจากเขื่อนป่าบอนซึ่งกรมชลประทานสร้างเสร็จไปแล้วเพียงแค่ 3 กิโลเมตร
นายเดชา บอกว่า กรมชลประทานมีความพยายามแบบไร้เหตุผลในการจะผลักดันให้มีการสร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนแห่งนี้มาเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว เมื่อถูกคัดค้านก็จะชะลอโครงการไว้ชั่วคราวทุกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาผลักดันต่อ ทำให้ชุมชนชาวเหมืองตะกั่วทนต่อพฤติกรรมของกรมชลประทานไม่ไหว เพราะเหมือนโดนหลอกมาตลอด ประการสำคัญคือการสร้างเขื่อนแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นกับพื้นที่ เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ กันมีเขื่อนถึง 2 แห่งอยู่แล้ว ทั้งยังมีความไม่ชอบมาพากล ไม่ผ่านการประชาพิจารณ์จากเวทีชาวบ้านอีกด้วย
เหตุผลในการคัดค้าน ซึ่งระบุอยู่ในหนังสือเรียกร้องให้ยุติการสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว มีทั้งหมด 5 ข้อ กล่าวคือ
1. ไม่มีความชัดเจนว่าโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ตามที่กรมชลประทานอ้างจริงหรือไม่
2. ในรัศมี 10 กิโลเมตรรายรอบโครงการ มีเขื่อนอยู่แล้ว 2 เขื่อนที่ได้สร้างหายนะต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนไม่ได้ใช้น้ำตามที่กรมชลประทานกล่าวอ้าง
3. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เคยไต่สวนความขัดแย้งเมื่อวันที่ 31 ส.ค.58 ระบุไว้ชัดว่า ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว
4. รายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คัดลอกข้อมูลจากรายงานโครงการอื่นใน จ.เพชรบูรณ์ เข้าข่ายการจัดทำรายงานปลอมหรือไม่
และ 5. พื้นที่สร้างเขื่อนอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ ซึ่งควรอนุรักษ์ไว้มากกว่าการสร้างเขื่อน
“ขอให้ตรวจสอบโครงการที่มีความไม่ชอบมาพากล เพราะไม่ได้ผ่านการทำเวทีประชาคม เป็นการแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ การก่อสร้างเขื่อนไม่มีความจำเป็น เพราะในพื้นที่โดยรอบมีอ่างเก็บน้ำป่าบอน และอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากมายนัก อีกทั้งยังเป็นการทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ และมีการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมปลอม คัดลอกข้อมูลบางส่วนมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลของทาง จ.พัทลุงเลย” นายเดชา กล่าวระหว่างยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
และย้ำว่า ทางกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดจะยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ และจะมีการยกระดับการชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ทางจังหวัดเร่งตรวจสอบข้อมูลและเร่งระงับโครงการ หากไม่ได้ความสนใจก็จะเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อไปประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลในตอนเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค.นี้
“คำตอบที่เราต้องการคือยกเลิกการสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว” นายเดชาย้ำ
ด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จะเร่งสรุปรายละเอียดหลักการและเหตุผลในการคัดค้าน ตลอดจนความจำเป็นของโครงการ รวมทั้งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อเสนอหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงพิจารณาต่อไป
นอกจากนั้นยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว กลุ่มคัดค้านเขื่อนหนองตะกั่วยังได้ยื่นหนังสือถึง นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเดินทางมารับหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุงด้วย ขณะที่เครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุง โดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ได้เดินสายไปยื่นหนังสือคัดค้านเขื่อนที่พรรคประชาธิปัตย์ กรุงเทพฯ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ย่านอรุณอัมรินทร์ด้วย
อนึ่ง เขื่อนเหมืองตะกั่วที่กลุ่มคัดค้านพูดถึงนั้น เป็นโครงการของชลประทานที่จะก่อสร้างเขื่อนดินเพื่อเก็บกักน้ำ 10.14 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคาดว่าจะมีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 16,475 ไร่ ครอบคลุม 10 หมู่บ้านใน ต.หนองธง และ 1 หมู่บ้านใน ต.คลองใหญ่ รวมจำนวน 2,090 ครัวเรือน
ข้อมูลของกรมชลประทานระบุว่า ปัญหาของ ต.หนองธง คือการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคเป็นประจำทุกๆ ปี การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วจะช่วยเสริมให้มีน้ำต้นทุนไว้สำหรับใช้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ และสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร ทั้งยางพารา สวนสละ สับปะรด และมะละกอ โดยรองอธิบดีกรมชลประทานเคยลงพื้นที่ และได้รับการขานรับจากประชาชนที่ต้องการให้สร้างเขื่อนเช่นกัน
Credit : เฟซบุ๊ก นายเดชา เหล็มหมาด
Credit : https://www.isranews.org/article/south-news/other-news/91323-water.html