ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘มนัสวี หรือชุมภูนุช สีมังมาศ’ อดีต จนท.เทศบาลตำบลหารเทา อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เบียดบังเงินรายได้อบต.-เทศบาล ปี 50 -52 ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 410 ปี รับสารภาพลดเหลือ 205 ปี แต่รวมโทษความผิดทุกกระทงแล้วคงให้จำคุก 50 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นางสาวมนัสวี หรือชุมภูนุช สีมังมาศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้เทศบาลตำบลหารเทา อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เบียดบังเงินรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หารเทา และเทศบาลตำบลหารเทา เมื่อปี พ.ศ.2550 -2552 ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 410 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 จำคุก 205 ปี
แต่เมื่อรวมโทษความผิดทุกกระทงแล้วคงให้จำคุก 50 ปี ตามมาตรา 91 (3) คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2563 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
Credit : https://www.isranews.org/article/isranews-news/91258-news03-53.html