โควิดโลก 20 ล.! อินเดีย ติดเชื้อใหม่ 6.2 หมื่น ตายรายวันมากที่สุด-ญี่ปุ่นขอ ปชช. การ์ดอย่าตก

116

อิศรา’ อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิดสะสมล่าสุด ยอดทะลุ 20 ล. ตาย 7.3 แสน -‘Oxfam’ จี้สอบ รบ.บราซิลหลังยอดตายเกินแสน -‘เยอรมนี’ตั้งศูนย์ตรวจโควิดที่สนามบินทั่วปท.ไม่เกินครึ่ง ชม.รู้ผล -‘บอริส จอห์นสัน’ยัน เปิดเรียน ก.ย.นี้ แม้ยอดติดเชื้ออังกฤษรายวันเกินพันราย-‘อินเดีย’ยอดตายรายวันทะล 1 พัน ล่าสุดเจอเพลิงไหม้ รร.กักตัว คร่าชีวิตผู้ป่วยนับสิบ-นายกฯ ญี่ปุ่น วอน ปชช.การ์ดอย่าตก เลี่ยงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

………………………………..

รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 10 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 20,005,732 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 208,783 ราย เสียชีวิต 733,285 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4,476 ราย

สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,197,098  ราย ติดเชื้อรายใหม่ 45,503 ราย เสียชีวิต 165,565 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 482 ราย

โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 6,419 ราย

ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม 475,902 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,495 ราย เสียชีวิต 52,006 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 695  ราย

ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 3,013,369 ราย ติดเชื้อใหม่ 46,305 ราย เสียชีวิต 100,543 ราย เสียชีวิตใหม่ 841 ราย

ขณะที่องค์กร Oxfam (องค์กรระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนโดยกลุ่มคนจากทั่วโลกที่ทำงานร่วมกันเพื่อขจัดปัญหาความยากจน) ประจำประเทศบราซิล ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลบราซิลอย่างจริงจังหลังจากที่มีผู้เสียชีวิตในประเทศเกิน 1 แสนราย

ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 887,536 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,189 ราย เสียชีวิต 14,931 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 77 ราย  

ขณะที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 385 ราย ล่าสุดทางการเยอรมนีได้มีการประกาศให้สนามบินทั่วประเทศเยอรมนีติดตั้งศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิด 19  ซึ่งจะใช้เวลาตรวจไม่เกิน 30 นาที โดยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงจะต้องเข้ารับการตรวจในทุกกรณี และผู้ที่เดินทางมาถึงประเทศเยอรมนียังสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ฟรี ณ ศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากที่เดินทางมาถึงเยอรมนี

ส่วนที่ประเทศอังกฤษซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,062 ราย ล่าสุด นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมายืนยันในคำสั่งให้เปิดโรงเรียนทั่วประเทศอังกฤษอีกครั้งหนึ่งในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากที่ต้องปิดการเรียนการสอนไปตั้งแต่เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเขาเชื่อว่าการเปิดโรงเรียนนั้นจะมีผลต่อทั้งสังคม เศรษฐกิจ และการสร้างขวัญกำลังใจในช่วงเวลานี้

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าการเปิดโรงเรียนนั้นจะเป็นไปได้โดยปลอดภัยแม้ว่าจะมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 อยู่

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่นายบอริสจะออกแถลงการณ์ยืนยันดังกล่าว พบว่ามีผลการศึกษาในประเทศอังกฤษระบุว่าประเทศอังกฤษเสี่ยงที่จะเจอกับการระบาดของไวรัสโควิด 19 ระลอกที่ 2 ถ้าหากไม่มีระบบการตรวจและติดตามผู้ติดเชื้อที่เหมาะสม

ทวีปเอเชีย  อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,214,137 ราย ติดเชื้อใหม่ 62,117 ราย เสียชีวิตสะสม 44,466 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,013  ราย  จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก    

ล่าสุดมีรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมสวาร์นา พาเลซ (Swarna Palace)  เมืองวิเจยาวารา ในรัฐอานธรประเทศ ซึ่งโรงแรมดังกล่าวเป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19 ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอีก 11 ราย

อ้างอิงวิดีโอจาก India Today

ส่วนที่ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 23 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 8 ราย และอีก 15ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์

ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 72 ราย และเสียชีวิต 4 ราย

ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,443 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 331 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว

โดยทางด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนยึดหลักการการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะได้ไม่ต้องประกาศสภาะฉุกเฉินแบบที่เคยทำเมื่อตอนเดือน เม.ย. เพราะการประกาศสภาวะฉุกเฉินดังกล่าวนั้นส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณามาตรการและข้อเสนอใหม่ๆเพื่อจะนำมาปรับใช้กับสถานการณ์โรคระบาดต่อไป

สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 129,913 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,028 ราย เสียชีวิตสะสม 2,270 ราย เสียชีวิตใหม่ 61 ราย

ที่อินโดนีเซีย  มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 5,723 ราย เสียชีวิตใหม่ 65 ราย  ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย กัมพูชามีผู้ติดเชื้อ 2 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อ 1 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อ 1 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 29 รายและเสียชีวิต 1 ราย

ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น  559,859 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,671 ราย เสียชีวิต 10,408 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 198 ราย

ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 404 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 17 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 394 ราย  และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 10 ราย

ส่วนปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 26 ราย

เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak

cr:https://www.isranews.org/article/isranews-news/91045-india01-2.html

- Advertisement -