นายกรัฐมนตรี ย้ำถ้าจำเป็น ก็ต้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้ไทยสถานการณ์ดีขึ้น แต่ทั่วโลกติดโควิดเกือบ 10 ล้านคน ปัดใช้เป็นเครื่องทางการเมือง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ถ้าจำเป็นต้องก็ต่อ แต่จะผ่อนคลายให้มากที่สุด วันนี้สถานการณ์โลกยังเห็นว่าติดเชื้อกันเกือบสิบล้านคน และอยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่า ที่ผ่านมาถ้าไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไทยคงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แบบนี้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เพื่อห้ามการชุมนุมการเมือง ขออย่านำเรื่องการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปโยงการเมือง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องมีการหารือกันกับทุกหน่วยงาน และไม่ใช่การตัดสินใจของตนคนเดียว
“ผมไม่ได้ต้องการใช้กฎหมายกดดันใคร หลายคนจ้องเรื่องนี้อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องการเมือง ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง และทำไมต้องมาจ้องตรงนี้ ทำไมต้องมาเคลื่อนไหวตอนนี้ บ้านเมืองกำลังมีปัญหา การค้าการลงทุนมีปัญหา แต่จะเริ่มขัดแย้งกันอีกแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้อยากให้คนไทยติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศด้วย สนใจแต่ในประเทศอย่างเดียวคงไม่พอ แม้เราจะสบายใจว่าไม่พบการติดเชื้อ 29 วันติดต่อกัน แต่การพบผู้ติดเชื้อในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ส่วนใหญ่เจอเชื้อในช่วงที่กักตัวเกือบครบกำหนด 14 วัน ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบคัดกรองต่อไปด้วยความเข้มงวด เพื่อไม่ให้โรคกลับมาระบาดอีกครั้ง
“หลายประเทศหายดีและกลับมาเป็นใหม่ เหล่านี้เกิดจากการเปิดประเทศ เกิดจากการเปิดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าทุกคนอยากกลับมามีรายได้ก็ต้องช่วยกันป้องกันตัวเอง สถานประกอบการมาขอเปิดกิจการ ผมก็เห็นใจ แต่ท่านต้องมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมด้วย เช่น เรื่องดนตรีจัดได้แต่ต้องมีที่กั้น หรือการท่องเที่ยวก็อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะเริ่มทำในประเทศก่อน แต่ต่างประเทศต้องดูความเหมาะสมของห้วงเวลาต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
Credit : https://www.isranews.org/article/isranews/89815-isranews-181.html