ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีชี้มูล ‘ศิริโรจน์ กุลนะวะณิชย์’ อดีตนายก อบต.คลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี มีส่วนได้เสียสัญญาเช่าห้องค้าแผงตลาดชายแดน ไทย – กัมพูชา พ่วงละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสอบ ‘นายช่างโยธา’ ใช้วุฒิการศึกษาปลอม ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ 1 ปี ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษ 3 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายศิริโรจน์ กุลนะวะณิชย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี มีส่วนได้เสียในสัญญาเช่าห้องค้าและแผงค้าในตลาดการค้าชายแดน ไทย – กัมพูชา และละเว้นไม่ ดำเนินการตรวจสอบ นายช่างโยธาที่ใช้วุฒิการศึกษาปลอม
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 2 ปี และปรับ 10,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 5,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุก มีกำหนด 3 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2563 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตแลประพฤติมิชอบภาค 2
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
ถ้าหาก นายศิริโรจน์ กุลนะวะณิชย์ รับทราบข่าวนี้ และประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม สามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศราได้ตลอดเวลา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Cr: https://www.isranews.org/article/isranews-news/89780-news04-23.html
