“บิ๊กมหาดไทย” ดับเครื่องชน! สั่ง “ผบ.ตร.-ผู้ว่าฯ” ทั่วประเทศ จับตู้คีบตุ๊กตา! ชี้ผิด พ.ร.บ.พนัน

237

มีเรื่องมาเล่า มีข่าวมาบอก ….

กระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือที่ มท ๐๓๐๗.๑๐/๑๖๗๔๐ ลงวันที่ 2 กันยายน 2568 เรื่อง “การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการพนัน” พร้อมตีตราประทับหัวกระดาษ “ด่วนที่สุด” ส่งถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

จะเป็นใครไปอื่นเสียมิได้ นอกจาก พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพสีกา คนปัจจุบัน

หนังสืออีกฉบับ ที่ มท ๐๓๐๗.๑๐/ว๘๐๓๘ ลงวันที่ 2 กันยายน 2568 เป็นเรื่องเดียวกัน ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด โดยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ลงนามในหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ด้วยตัวเอง

เนื้อหาใจความตามหนังสือ ระบุว่า……

ด้วยตู้คีบตุ๊กตาเข้าข่ายเป็นเครื่องเล่นการพนัน ที่อยู่ในบัญชี ข. หมายเลข 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ซึ่งผู้จัดให้มีการเล่นดังกล่าวจะต้องขออนุญาต ตามมาตรา 4 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478

กระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการพนันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือมายังท่าน แจ้งประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในสังกัดทราบ และถือปฏิบัติ ดังนี้

ข้อ1. ตู้คีบตุ๊กตามีวิธีการเล่น คือ ผู้เล่นจะต้องแลกชิป หรือหยอดเหรียญ มูลค่าเหรียญละ 10 บาท จากนั้นนำไปหยอดที่ช่องหยอดเหรียญหรือชิปที่ตู้ดังกล่าว หรือกระทำการด้วยวิธีอื่นใด ในการชำระราคา มูลค่า 10 บาท และจับคันโยกเลื่อนหาตำแหน่งเพื่อคีบตุ๊กตา

จากนั้นกดปุ่มเพื่อให้ที่คีบตุ๊กตาปล่อยตุ๊กตาลงช่อง โดยการเล่นในแต่ละครั้ง ผู้เล่นอาจจะได้ หรือไม่ได้ตุ๊กตา แม้จะมีแสดงข้อความว่า หากหยอด ชิปหรือเหรียญ หรือชำระราคาตามกำหนด จะได้สินค้า หรือตุ๊กตาดังกล่าวก็ตาม

แต่หากเครื่องเล่นข้างต้น สามารถให้ผู้เล่นเข้าเล่นด้วยวิธีการดังกล่าวได้ก่อนจะหยอดเหรียญ หรือก่อนชำระราคาครบ ตามที่กำหนด ก็ถือว่าเป็น “การพนัน” เพราะมีการแพ้ชนะกันได้ ระหว่างผู้เล่นกับเจ้าของเครื่อง

เว้นเสียแต่ว่า หากผู้เล่นชำระเงินไม่ครบถ้วนตามที่กำหนด เครื่องเล่นข้างต้นสามารถ “คืนเงิน”ที่ผู้เล่นชำระไปแล้วได้ทันทีโดยอัตโนมัติ หรือสแกน QR Code เพื่อคืนเงินทันทีทางบัตรสมาชิกโดยอัตโนมัติ การจัดให้มีการเล่นดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ผู้ออกใบอนุญาตก่อน จึงจะเล่นได้

หากฝ่าฝืนถือเป็นความผิด ตามมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อ 2. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า,ผู้ประกอบการตลาดนัด,ผู้ประกอบการให้เช่า สถานที่ต่างๆในพื้นที่ทราบถึงข้อมูลข้างต้น หากยังปล่อยปละละเลย ให้มีตู้คีบตุ๊กตาในลักษณะดังกล่าวที่ได้ดำเนินการโดยผิดกฏหมายในพื้นที่ของตน อาจเข้าข่ายเป็นความผิด โดยการช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือสนับสนุนให้มีการ กระทำความผิดดังกล่าว ตามมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478

ท้ายหนังสือ ยังระบุอีกว่า ให้จังหวัดซักซ้อมความเข้าใจ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทราบถึงองค์ประกอบตามข้อ 1 ที่เข้าข่ายเป็นการพนัน ให้ผู้จับกุมบรรยายวิธีการเล่น ลงในบันทึกการจับกุม ให้ครบองค์ประกอบความผิด เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำผิด อาศัยช่องว่างของกฏหมายไปใช้ในการต่อสู้คดี

ให้จังหวัดและอำเภอจัดพนักงานฝ่ายปกครอง และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เข้าร่วม “บูรณาการ”ในการบังคับใช้กฎหมาย ตรวจสอบจับกุมดำเนินคดี อย่างเข้มงวด

ชัดเจนไหมครับ…!

ราวว่า โดนตอกลิ่มทิ่มเหล็กแหลม ลงกลางกระหม่อมของไอ้พวก “ตะแบง” ที่ชอบ “ไขสือ” หันสีข้างเข้าถู….จงแหกตาดู และเอียงหูฟังกันไว้ให้ชัดๆ!

ประหนึ่ง ถูกฟาดด้วยโซ่เหล็กไฟ ใส่ “กบาล” ไอ้พวก “เกียร์ว่าง” ช่วยนั่งถ่างตาอ่าน…และค่อยๆอ่านทุกตัวอักษร ให้คำสั่งมันซึมลึกลงไปขังอยู่ใต้ชั้นสมอง ทั้งในยามหลับและตื่น 24 ชั่วโมง !

ใครที่เคยบอกว่า….“ให้ผมไปทำงานพัฒนาบ้านเมืองดีกว่า ไปไล่จับพวกนี้ เพราะเขาไม่ผิด มันเป็นแค่ตู้จำหน่ายสินค้า…บลาๆๆๆ”

ใครหน้าไหน? ที่เคยออกมาโวยวาย ว่า “ตู้คีบตุ๊กตา”ที่ตั้งวางกันเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง มันไม่ใช่ การพนัน” ช่วยเอาหนังหน้าหนาๆไปมุด…หีบ!ด้วย

พวกดีแต่ “ผีเจาะปาก”ไปวันๆ เพราะธุรกิจสีเทาประเภทนี้ มันมีผลประโยชน์ก้อนโตมากมายอื้อซ่ามหาศาล จุกคาลำคอจนพูดจาอ้อแอ้ ฟังไม่ได้ศัพท์กันทั้งระบบ

จบแล้วครับเจ้านาย!ต่อไปใครละเว้น เมินเฉย ปล่อยปละละเลย “ดาบประหาร157” จ่อคอรอเชือด!

ไม่ใช่แค่ในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เท่านั้นนะ แต่มันกระจายเป็น “ขี้เรื้อน”ลุกลามไปทั่วประเทศแล้วเวลานี้….มอมเมาลูกเล็กเด็กแดงกันถ้วนหน้า

“อธิปบูรพา” เคยฟาดฟัน ขึงพืดทะลวงไส้ ให้เห็นกลไกในกลโกง ของตู้ประเภทนี้กันมาแล้ว แบบว่าแก้ผ้าล่อนจ้อนเปลือยเปล่าให้รู้ว่า มันคือมหาภัยตัวร้าย เสมือนเครื่องจักรชักใยนำเด็กและเยาวชน เข้าไปสู่วงจรพนันอุบาทว์ อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

สีสันของตัวสายล่อฟ้าคือตุ๊กตาในตู้ ล้วนอาบยาพิษ ทำให้เกิดตัวกิเลส ความลุ่มหลงอยากได้

แต่คุณภาพสินค้า จะดูว่าเกรดต่ำ ระดับร้านปาเป้าเป่าลูกโป่งตามงานวัด งานสวนสนุกรื่นเริง โดยใช้กลเม็ดติดราคาขายหน้าตู้สูงลิบ ตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึงหลักพันบาท หรือมากกว่า

พร้อมกับแปะสติ๊กเกอร์หน้าตู้ เพื่อเลี่ยงบาลีศรีธนญชัยว่า “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” เงื่อนไขคือหยอดเงินครบ ได้ของในตู้แน่นอน!

ถามก่อน!เคยเห็นมีใครหน้าไหนควักตังค์ หยอด โยก คีบ จนครบแล้วได้ตุ๊กตาไปไหม? ลูกเล็กเด็กโต รวมทั้งผู้ใหญ่หัวหงอกหัวดำ ส่วนใหญ่ เจอระบบกลไกภายในเครื่องตั้งโปรแกรมโกง

พอคีบติด โยกมาหลุด กะว่าขยับเลื่อนมาจะหย่อนลงช่องซะหน่อย พอใกล้จะถึงอ้าว!หลุดไปแล้ว

เจอไปแบบนี้ทุกเกมส์ หลายครั้งซ้ำๆ หมดเงินไปร้อยครึ่งร้อย

ทุกคนต่างพากันถอย…ไม่ไปต่อ เดินตัวปลิว มือเปล่า อดขนม หน้าเหี่ยว นอนหิวเอาน้ำลูบท้องที่บ้าน!

“ตู้คีบนรก” แดกเงินฟรี! แบบนี้เข้าข่าย “การพนัน”ไหม? ชั่วนาตาปีไม่เคยมีใครไปตรวจสอบ ล่อซื้อ หรือจับกุม

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตาบอดตาใส หัวใจบอดสี ไม่ดูดำดูดี ชี้ภัยสังคม กลับทำหูตาฟ้าฝาง ปล่อยให้ “พันธุกรรมนรก” โมเลกุลชั่วฟักตัว จนแผ่กระจาย กลายเป็น “ปลิง”ดูดเลือดสังคมมานมนาน

คำสั่งยาหยอดตา ยี่ห้อ “ มหาดไทย” อาจทำให้ พวกใช้สีข้างถูจนถลอกปอกเปิก พวกที่เคยมองเห็นภาพ “ตู้คีบตุ๊กตา”เป็นดอกบัว คงเปลี่ยนสีได้ในฉับพลันทันใด!

เหมือนสัตว์เลื้อยคลานบางจำพวก!

#นักข่าวพันธุ์หมา

- Advertisement -