CARE ไม่ฉีก ก็ไม่ปัง เพ้ง ส่งทายาท-เลี้ยบ ติดล็อก

43

จับกระแสทิศทาง-การวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองต่อการเคลื่อนไหวของ กลุ่มแคร์ ที่ชูสโลแกน “CARE คิด เคลื่อน ไทย” ที่เริ่มฉายหนังตัวอย่างการเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะๆ ก่อนที่คีย์แมนกลุ่มจะเริ่มออกมาเปิดตัวต่อสังคมอย่างเต็มรูปแบบวันพุธนี้ 17 มิ.ย. ที่พบว่า กระแสเสียงคนในสังคมมองความเคลื่อนไหวของกลุ่มแคร์ ถึงตอนนี้ จำแนกออกเป็น 2 บริบทสำคัญ

1.มองว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคีย์แมนในพรรคเพื่อไทยบางปีกที่ต้องการสร้าง “space ทางการเมือง” ให้กับตัวเองได้มีที่มีทางมากขึ้น โดยเฉพาะ ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านฯ จากที่เคยเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เข้าไปมีบทบาทในเพื่อไทยมากขึ้นหลังเลือกตั้ง จนสุดท้าย ภูมิธรรม ต้องหลบทางเพื่อให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ มาเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยแทน ตามข้อเรียกร้อง “เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่” เข้าไปทำงาน เพราะการมีพื้นที่ทางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ นักการเมือง จึงทำให้ “ภูมิธรรมกับสหาย” ทางการเมืองที่ร่วมก่อตั้งไทยรักไทยมากับทักษิณตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งปี 2544 อย่าง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช-นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี-พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รวมถึงจาตุรนต์ ฉายแสง มาจับมือกันขยับ ทำ “กลุ่มแคร์” เพื่อเตรียมต่อยอดการทำพรรคการเมืองในอนาคตต่อไป ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่าชื่อที่ถูกระบุข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นคนเพื่อไทย-อดีตคนเพื่อไทย ที่ไม่ต้องการอยู่ใต้เงาสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในเพื่อไทย จึงต้องสร้าง space ทางการเมืองใหม่ จนเป็นที่มาของกลุ่มแคร์

2.มีการมองกันว่า แม้เรื่อง “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” จะเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกทั้งตอนนี้สภาก็มีการตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไข รธน. ออกมาแล้ว ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องแก้ไข รธน.จากกลุ่มการเมือง-นักศึกษา ก็คาดว่าจะกลับมาอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

กระนั้นในทางการเมืองพบว่า แม้แต่กับพรรคการเมืองที่เป็นหัวหอกหลักในการเคลื่อนไหวเรียกร้องแก้ไข รธน.ทั้งในฝ่ายรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย-ก้าวไกล ก็มองว่าโอกาสที่จะถึงขั้นให้มีการยกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับน่าจะเกิดขึ้นได้ยาก เต็มที่อาจแก้ไขได้แค่บางมาตรา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายลูกเท่านั้น จึงทำให้มีโอกาสสูงที่ระบบการเลือกตั้งแบบเดิมจะยังคงต้องใช้ต่อไปอีก ในการเลือกตั้งรอบหน้า

ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายทักษิณ ชินวัตร และเพื่อไทย ที่เคยทำพรรคเครือข่ายไว้หลายพรรค โดยเฉพาะไทยรักษาชาติ จึงอาจมองว่า ยังจำเป็นที่ต้องมี แผนสำรอง ไว้แต่เนิ่นๆ ในการตั้งพรรคเครือข่ายไว้รองรับการเลือกตั้ง

ด้วยเหตุนี้ แม้กลุ่มแคร์จะพยายามวางแบรนด์ของกลุ่ม ให้เป็นกลุ่มเปิด รับความคิดเห็นใหม่ๆ ทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ เพื่อสร้างพื้นที่ใหม่ทางการเมือง แต่ทว่าจับกระแสสังคมการเมืองแล้ว ดูเหมือนผู้คนยังมองว่า กลุ่มแคร์ ที่จะพัฒนาไปสู่การทำพรรคการเมืองในอนาคต ก็เป็นแค่ “การลอกคราบใหม่” ของพรรคเพื่อไทยไปสู่อีกแบรนด์หนึ่งเท่านั้นเอง

ซึ่งหากคีย์แมนกลุ่มแคร์แก้โจทย์เรื่องนี้ไม่ได้ ที่คีย์แมนกลุ่มพยายามคิดจะสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ทางการเมืองก็เหนื่อยไม่น้อยในการทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ เพราะในทางการเมือง หลังเปิดตัวกลุ่มแคร์มาได้สักระยะ กระแสสังคมก็จะเลิกสนใจไปเอง ดังนั้นหากคีย์แมนกลุ่มแคร์ไม่สามารถนำเสนอความใหม่ในเรื่องต่างๆ ออกมาเพื่อขายไอเดียต่อสังคมได้เรื่อยๆ คนก็จะเลิกสนใจกลุ่มแคร์ไปเอง ทำนอง”ไม่ปัง ก็จบข่าว”

สำหรับคีย์แมนกลุ่มแคร์ที่เริ่มเปิดตัวออกมา พบว่ามี 7 สมาชิกเริ่มต้น คือ ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบ, พริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล บุตรชายของพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, นพ.พรหมินทร์, ภูมิธรรม, น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือคำ ผกา นักเขียนและพิธีกรวอยซ์ทีวี, นางวีรพร นิติประภา นักเขียนซีไรต์ และ นพ.สุรพงษ์

ทั้งนี้สำหรับ หมอเลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์ แม้จะเข้ามาร่วมกิจกรรมการเมืองกับกลุ่มแคร์ แต่ก็ไม่สามารถขยับทางการเมืองได้เต็มที่ เพราะมีชนักติดหลังจากปัญหาคดีความ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตัดสินจำคุกในคดี แก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียมเอื้อกลุ่มชินคอร์ปของตระกูลชินวัตร สมัยทักษิณเป็นนายกฯ ที่ศาลสั่งจำคุก 1 ปี และออกจากคุกเพราะได้รับการพักโทษเมื่อ 4 ก.ค.2560 จึงทำให้ถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ 5 หรือ 10 ปี

ขณะที่ เสี่ยเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ ที่เคยประกาศเลิกเล่นการเมืองตอนงานวันเกิด 69 ปี แต่เมื่อลงมาคลุกคลีร่วมอยู่หลังฉากในการตั้งกลุ่มแคร์-เตรียมทำพรรค รอบนี้ พงษ์ศักดิ์เปิดไฟเขียวให้ลูกชาย พริษฐ์ เริ่มกรุยทางเข้าสู่การเมือง หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา และกำลังสานต่อธุรกิจของครอบครัว ตามที่ลูกชายเคยบอกตั้งแต่ตอนอายุ 18 ปีแล้วว่า อยากเป็นนักการเมืองเหมือนบิดา

ต่อจากนี้รอดูกันว่า on the road ทางการเมืองของกลุ่มแคร์ สุดท้ายจะต่อยอดไปสู่การตั้งพรรคการเมืองใหม่อย่างที่คีย์แมนบางคนในกลุ่มเขียนพิมพ์เขียวไว้ได้หรือไม่ หรือจะล้มเหลว พังไม่เป็นท่าอีกรอบ แบบที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติ

Credit : http://www.thainewstalk.com/talk-3946.html

- Advertisement -