คุก 47 ปี 6 ด.! อดีตนิติการ ศาลจว.อุดรธานี เบียดบังเงินค่าปรับวางประกันปล่อยตัวชั่วคราว

31

ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด ‘สมศักดิ์ อ่อนอุบล’ อดีตนิติการ 6ว สนง.ประจำศาลจังหวัดอุดรธานี เบียดบังเงินค่าปรับวางประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4  พิพากษาลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 95 ปี รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ  47 ปี 6 เดือน พร้อมคืนเงินจำนวน 1,429,400 บาท 

เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสมศักดิ์ อ่อนอุบล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนิติการ 6ว กลุ่มงานประชาสัมพันธ์และบริการประชาชน สำนักงานประจำศาลจังหวัดอุดรธานี เบียดบังเงินค่าปรับเงินวางประกันในการขอปล่อยตัวชั่วคราว 

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 157 และมาตรา 161  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4  มีคำพิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 161 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวม 19 กระทง ซึ่งแต่ละกระทงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 95 ปี

จำเลย ให้การรับสารภาพ เป็นเหตบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 47 ปี 6 เดือน 

พร้อมให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 1,429,400 บาท แก่สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดอุดรธานี สำนักงานศาลยุติธรรม

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2563 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4

ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

ถ้าหาก นายสมศักดิ์ อ่อนอุบล รับทราบข่าวนี้ และประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศราได้ตลอดเวลา

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

cr.https://www.isranews.org/article/isranews/89389-news04-16.html

- Advertisement -