‘ปรีดา หิมทอง’ นายก อบต.สลุย อ.ท่าแซะ ชุมพร แจง ‘อิศรา’ ยังไม่เห็นเรื่องตนเองถูก ป.ป.ช. ชี้มูลอาญาแจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กรณีไม่ลงประกาศสอบราคารายละเอียดราคากลางก่อสร้างปรับปรุงถนน 5 โครงการในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง ระบุขอสอบถามนายอำเภอก่อน ส่วนจนท.ฝ่ายพัสดุ 2 ราย ให้สั่งสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงไปแล้ว ชี้ช่วงเกิดเหตุเวลาคาบลูกคาบดอก กม.ยังไม่บังคับใช้
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา นายปรีดา หิมทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และพวก 2 ราย ประกอบไปด้วย 1. นางสาวศณิสา เพ็ชรหนัก หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ องค์การบริหารส่วนตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และ 2. นายธิติพันธุ์ เรียมทอง เจ้าหน้าที่พัสดุ องค์การบริหารส่วนตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร กรณีไม่ลงประกาศสอบราคารายละเอียดราคากลาง การคำนวณราคากลางโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนน จำนวน 5 โครงการ ในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง
โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นายปรีดา หิมทอง มีมูลความผิดอาญา ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบ เรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบ ด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การ บริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
โดยเบื้องต้น คณะกรรมการป.ป.ช. ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นางสาวศณิสา เพ็ชรหนัก และ นายธิติพันธุ์ เรียมทอง และส่งสำนวนการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นายปรีดา หิมทอง ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (2) และ มาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป
ขณะที่ นายปรีดา หิมทอง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา ว่า ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ คงต้องขอประสานงานกับทางฝ่ายพัสดุก่อน
ล่าสุด ในช่วงเช้าวันที่ 2 ธันวาคม 2563 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายปรีดา หิมทอง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง
นายปรีดา ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไม่ร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายไปแล้ว หลังจากได้รับหนังสือแจ้งจากทาง ป.ป.ช. ส่วนกรณีที่เกี่ยวกับตนเอง ยังไม่เห็นเรื่อง คงจะต้องไปสอบถามข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาท้องถิ่น ก็คือ นายอำเภอก่อน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า มีการไม่ลงประกาศสอบราคารายละเอียดราคากลาง การคำนวณราคากลางโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนน จำนวน 5 โครงการ ในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง จริงหรือไม่ นายปรีดา ตอบว่า “ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลาคาบลูกคาบดอกที่กฎหมายยังไม่ได้บังคับใช้ และเป็นเรื่องในขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผมก็ได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยไม่ร้ายแรงไปแล้ว”
เมื่อถามว่า ยังไม่เห็นหนังสือ ป.ป.ช. ที่แจ้งผลการชี้มูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองใช่หรือไม่ นายปรีดา ตอบว่า “ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ คงต้องไปสอบถามกับนายอำเภออีกครั้งก่อนว่าเรื่องเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังปฏิบัติหน้าที่ตามเดิมอยู่”
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับฐานความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนแล้วมีมติวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทําความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือความผิดที่เกี่ยวข้องกัน ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้
(1) ถ้ามีมูลความผิดทางอาญา ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน สําเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคําวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดภายในสามสิบวัน เพื่อให้อัยการสูงสุด
ยื่นฟ้องคดีต่อไป
(2) ถ้ามีมูลความผิดทางวินัย ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน และคําวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอํานาจแต่งตั้งถอดถอนภายในสามสิบวันเพื่อให้ดําเนินการทางวินัยต่อไป ระบุว่า และ มาตรา 98 วรรคสี่
ส่วนมาตรา 98 วรรคสี่ ระบุว่า สําหรับผู้ถูกกล่าวหาซึ่งไม่มีกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับวินัยเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทําความผิดในเรื่องที่ถูกกล่าวหานั้น ให้ส่งสํานวนการไต่สวนไปยังผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอํานาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไป
