นายกฯเผยครม.ไม่มีการพิจารณาต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสาย ‘สีเขียว’ สั่ง ‘มหาดไทย’ หารือ ‘กทม.-คมนาคม-รฟม.’ เพิ่ม ก่อนเสนอครม.พิจารณา ย้ำค่าโดยสารต้องถูก-แก้ปัญหาหนี้สิน ด้าน ‘อนุพงษ์’ ลั่นหมดหน้าที่แล้ว ชี้การตัดสินอยู่ที่ครม.
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ว่า ครม.ยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้ ซึ่งการพิจารณาจะยึดเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาตและประชาชน
“ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ ผมก็ยึดหลักเรื่องประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนโดยรวมเป็นสำคัญ ซึ่งต้องไปพิจารณาดู และฝากดูด้วย ส่วนที่ไปวิพากษ์วิจารณ์กัน ก็ไปดูสิว่า มีกี่ช่วง ช่วงที่ 1 ช่วงที่ 2 ช่วงที่ 3 แล้วปัญหาว่า ใครจะทำ จะจ้างใคร งบประมาณกทม.มีหรือไม่ ที่ผ่านมาขาดทุนเพราะอะไร ถึงต้องทำระยะที่ 2 ที่ 3 วันนี้ต้องพิจารณาตลอดสายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และประชาชนได้ประโยชน์จากค่าโดยสารที่ถูกลง
แต่ถ้าไปเปรียบกับสายอื่นก็คนละแบบอีก คือ ต้องดูหลักเกณฑ์ หลักการในการพิจารณาว่า ควรจะทำอย่างไร ไม่ใช่แก้ปัญหาวิธีนี้วิธีเดียว มีวิธีอื่นอีกด้วย ต้องดูหลักการและเหตุผลด้วยแล้วกัน โดยเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยจะทำข้อพิจารณาเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งต้องไปหารือร่วมกับหลายกระทรวง และหลายหน่วยงานที่้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาสำคัญของโครงการถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ หนี้ที่ค้างอยู่จะทำอย่างไร และถ้าวันนี้รถไฟฟ้ายังเดินไม่ได้ตลอดสาย หนี้สินก็พอกไปเรื่อยๆ แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งวันหน้าจะต้องแก้ปัญหากันอย่างไร ก็ต้องไปคิดดู ให้ช่วยกันคิด ถ้ามีวิธีการอื่นที่ดีก็เสนอมาได้ รัฐบาลจะไปพิจารณา แต่หากไปพูดให้เสียหาย ก็แก้อะไรไม่ได้เหมือนเดิม และปัญหาหลายเรื่อง รัฐบาลนี้ก็แก้มาตลอด รับทำมาตลอด ขอเห็นใจรัฐบาลบ้าง
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวหลังประชุม ครม. ว่า ครม.ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวแต่อย่างใด ทั้งนี้ การพิจารณาแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการฯเข้าไปดำเนินการ เมื่อพิจารณาเสร็จในขั้นตอนนั้นแล้ว ก็ส่งให้สำนักอัยการและกระทรวงมหาดไทยพิจารณา จากนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงเป็นผู้เสนอ ครม.
“กระทรวงมหาดไทยไม่ได้เป็นหน่วยงานต้นเรื่องที่จะเสนอ แต่มีหน้าที่นำสิ่งที่คณะกรรมการทำมาเสนอ ครม. ส่วน ครม.จะเห็นด้วยหรือไม่ก็เป็นเรื่องของ ครม. แต่ที่เรื่องนี้มีประเด็น เป็นเพราะมีบางกระทรวงแสดงข้อคิดเห็นเข้ามา จึงต้องไปสอบถามกระทรวงต่างๆก่อน และให้ส่งความเห็นกลับมาที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) โดยขณะนี้หน้าที่ของตนจบแล้ว เพราะส่งเรื่องให้ ครม.ตามคำสั่งของ คสช. แล้ว ส่วนจะนำกลับเข้าครม.พิจารณาอีกครั้งเมื่อไหร่นั้น ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า มีประเด็นใดที่ต้องขอความเห็นเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นที่กระทรวงคมนาคมขอความเห็นเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งเป็นหน้าที่ของเลขาครม. ไม่ใช่ตน ที่ต้องสอบถามกระทรวงต่างๆ และเสนอกลับมาที่เลขาครม. และเลขาครม.จะนำเข้าครม. ซึ่งไม่ใช่ขั้นตอนของตนแล้ว
เมื่อถามว่า การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีประเด็นเกี่ยวกับค่าโดยสารหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ต้องส่งให้กระทรวงต่างๆ ทำความเห็น และกระทรวงต่างๆต้องเสนอกลับมา
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านขู่จะนำเรื่องดังกล่าวนี้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงเรื่องนี้ในสภาฯหลายครั้งแล้ว ซึ่งไม่มีอะไร เพราะตราบใดถ้าไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร ก็อธิบายไปตามนั้น จะแก้ไขวิธีไหก็เลือกเอา ซึ่งจะทำอย่างไรก็ได้ เพราะมีหลายวิธีตามที่โอกาสจะทำได้ เมื่คณะกรรมการฯเสนอเข้ามาอย่างนี้ ถ้าจะไม่เอาหรือแก้ปัญหาอย่างอื่นก็ได้
“ขอย้ำว่าไม่ใช่หน้าที่ที่ผมจะเป็นคนเสนอ แต่เป็นคณะกรรมการฯ ที่ทำเรื่องดังกล่าวนี้เป็นคนเสนอมา หน้าที่ของ ครม. คือการตัดสินใจว่าจะเลือกหรือไม่เลือกวิธีนี้ก็ได้” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
Cr ภาพ : www.thaigov.go.th
Cr : https://www.isranews.org/article/isranews-news/93676-gov-BTS-Skytrain-Green-line-concession.html