นักศึกษาหลักสูตรบัญชีดิจิทัล วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายจากนักศึกษาทั่วประเทศ 84 ทีม ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเดียวที่ติดอันดับ Top10 ในการแข่งขันตอบปัญหาภาษีอากรระดับประเทศ ครั้งที่ 3 “Tax Challenge 2024” สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของบัณฑิตด้านบัญชีที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างแข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
การแข่งขันตอบปัญหาภาษีอากรระดับประเทศ ครั้งที่ 3 หรือ “Tax Challenge 2024” จัดขึ้นโดย สมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทย (Tax Auditor of Thailand :TA) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ด้านภาษีอากรให้กับนักศึกษา และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โลกของการทำงานอย่างมีมาตรฐานและตอบโจทย์ภาคธุรกิจ โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก อาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานกล่าวต้อนรับและให้กำลังใจนักศึกษาที่เข้าแข่งขันทั้ง 252 คน จากทั่วประเทศ และคุณวรวงค์ ระฆังทอง นายกสมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดงานการแข่งขัน
โดยนักศึกษาหลักสูตรบัญชีดิจิทัล วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ทีม TA001 ประกอบด้วย 1.นายภาณุสรณ์ เหมรัตน์ภูริดา 2.นางสาววราภรณ์ นาคชัยยะ 3.นางสาวสิริกัญญา มาลัยทอง ได้ฝ่าฟันการแข่งขันที่เข้มข้นในรอบคัดเลือก ที่วัดความรู้พื้นฐานผ่านข้อสอบปรนัย 60 ข้อ ภายใต้เวลาจำกัดเพียง 1.5 นาทีต่อข้อ และเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ที่ต้องใช้ความรู้และทักษะในการคิดและวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึก เพื่อตอบข้อสอบอัตนัย 10 ข้อ ภายในเวลา 3 นาทีต่อข้อ ได้อย่างยอดเยี่ยม แม่นยำ และสามารถคว้ารางวัลสำเร็จได้ในอันดับที่ 9 จากทั้งหมด 84 ทีม โดยเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเดียวที่ติดอันดับ Top10
นอกจากนี้ ทีม TA046 ประกอบด้วย 1.นายภูมิบดินทร์ วรรณพงษ์ 2.นายณรงค์ฤทธิ์ ขุนพิทักษ์ 3.นายนฤพนธิ์ กำแพงจินดา ก็สามารถทะลุเข้ารอบ 30 ทีมสุดท้าย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนจากคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีอากร
ดร.เปรมารัช วิลาลัย หัวหน้าโครงการและอาจารย์ประจำหลักสูตรบัญชีดิจิทัล วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการแข่งขัน “Tax-Challenge 2024” ครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการที่หลักสูตรบัญชีดิจิทัลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานจริง และมุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติเพื่อให้นักศึกษาสามารถนำความรู้และเอาไปใช้ในสถานการณ์จริง ขณะที่การติวเข้มก่อนการแข่งขันทั้ง Onsite และ Online ก็มีส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ก่อนการแข่งขันจะมีการเตรียมตัว ซึ่งสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เราติวเข้มข้น 2 เดือน ทั้ง Onsite และ Online โดยอาจารย์หลักสูตรบัญชีดิจิทัล CIB และผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันที่เชี่ยวชาญในด้านภาษีและทางด้าน Tax Audit เพื่อให้นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้และนำเอาไปใช้ในสถานการณ์จริง”
ดร.เปรมารัช กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับการแข่งขัน Tax Challenge 2024 ที่จัดการแข่งขันครั้งนี้ นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ในการยกระดับทักษะด้านบัญชีและภาษีอากรของนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงแต่เป็นการวัดความรู้ความสามารถของนักศึกษา แต่ยังเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ และฝึกฝนเทคนิคทางด้านบัญชีและภาษีอากรในธุรกิจ ให้พร้อมตามมาตรฐานก่อนออกฝึกงาน หรือปฏิบัติงานสหกิจศึกษา (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE) สำหรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้รูปแบบของการแข่งขันที่กำหนดให้แต่ละสถาบันส่งตัวแทนเข้าร่วมได้ 2 ทีม และทีมละ 3 คน ยังช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาเกิดทักษะ การวิเคราะห์ปัญหา การประสานงาน รวมถึงการสื่อสารทำงานเป็นทีม โดยการแบ่งหน้าที่สำหรับสมาชิกในทีมตามความถนัด ทำให้นักศึกษามีทั้งความชำนาญยิ่งขึ้นในรายวิชาของการแข่ง และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงเมื่อทำงาน
“ในอนาคต หลักสูตรบัญชีดิจิทัลของเราจะยังคงพัฒนาและเสริมทัพโปรแกรมทางบัญชีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโปรแกรม ERP ทางบัญชีที่ใช้ในองค์กรใหญ่ ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครนำมาสอน เราได้นำมาใช้ในรายวิชาบัญชีดิจิทัลทั้ง 5 วิชา เพื่อนักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริงในสภาวะที่ใกล้เคียงกับการทำงานจริงทั้งในการจัดทำเอกสารบัญชีตลอดจนการจัดทำรายงานทางการเงิน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมบัญชี On-Cloud ที่ใช้ในบริษัทขนาดกลางและเล็ก ให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ประยุกต์สู่ AI หรือ Transformation ได้ โดยที่ผ่านมานักศึกษาได้รับคำชมจากสถานประกอบการมากมาย”