มีรายงานว่าในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มนายทุนชาวจีนเช่าพื้นที่ดินจำนวนหลายสิบไร่ ริมถนนเลียบทางรถไฟฝั่งขาเข้าพัทยา ติดกับโครงการตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา โดยได้มีการปรับถมที่ดินเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเริ่มลงมือก่อสร้างที่พักคนงานและอาคารขนาดใหญ่หลายจุดภายในโครงการ กระทั่งมีการนำประเด็นดังกล่าวมานำเสนอตีแผ่ทางสื่อโซเขียลว่าเป็นเรื่องที่เมืองพัทยาควรเร่งรัดในการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าจากนั้นกระแสข่าวดังกล่าวก็เงียบหายไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจพื้นที่ของโครงการนี้อีกครั้งพบว่าปัจจุบันมีการสร้างรั้วล้อมโครงการไว้โดนขึงกันพรางตาด้วยผ้าแสลนด์สีดำ ขณะที่ภายในยังคงพบเห็นการนำรถแบ็คโฮเข้ามาขุดและไถกลบปรับสภาพพื้นที่ ขณะที่ฝั่งทิศใต้และทิศเหนือของโคงการมีการก่อสร้างตัวอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น รวมทั้งผนังรั้วโครงการด้านใน โดยพบว่ามคนงานกำลังทำงานกันอยู่อย่างขมักเม่น โดยพื้นที่ของโครงการไม่มีการติดป้ายประกาศผังโครงการแผนการก่อสร้างและวิศวกรผู้รับผิดชอบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามจากการสอบถาม นายมรุต อุทัยวัฒนานนท์ รักษาราชการหัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา เปิดเผยถึงความเป็นมาของโครงการดังกล่าวว่าเจ้าหน้าที่นายตรวจเขตตรวจพบว่ามีการก่อสร้างโดยไม่ได้อนุญาตมาก่อนหน้านี้แล้วจากน้นก็สั่งให้ทำการระงับและให้ยื่นเรื่องเสนอแบบและโครง การเพื่อขออนุญาตอย่างถูกต้อง กระทั่งพบว่ามีการนำเสนอกระแสข่าวโครงการดังกล่าวผ่านทางสื่อออนไลน์จึงคาดว่าจะเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ จึงได้สั่งการทางวาจาให้เจ้าของโครงการเร่งดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง ขณะที่เมืองพัทยาคงจะรอเวลาต่อไปไม่ได้จึงสั่งการให้นายช่างตรวจเขตรวบรวมหลักฐานก่อนนำเสนอเรื่องต่อนายกเมืองพัทยา เพื่อเตรียมออกหมายแบบ ค.3 หรือคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อน ย้ายอาคาร การออกคำสั่งแบบ ค.4 คำสั่งห้ามใช้อาคารหรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตราย และการออกคำสั่งแบบ ค.5 คำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายอาคาร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาภายใน 7 วันนี้
ในส่วนที่มีการแจ้งว่าปัจจุบันยังคงมีการก่อสร้างอยู่นั้น เรื่องนี้คงงงถือว่าเป็นความผิดและขัดต่อคำสั่งสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งจะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบลลงไปสำรวจและสั่งระงับอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่ามีพื้นทื่หลายแห่งลักลอบแอบบทำการก่อสร้างโดยม่ำด้รับอนุญาต ซึ่งเมืองพัทยาก็พยายามเร่งรัดและตรวจสอบ แต่ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีความหนาแน่น ทำให้การทำงานอาจประสพปัญหาอยู่บ้างก็คงต้ออาศัยความร่วมมือจากภาคสังคมและการแจ้งข่าวและเบาะแสแก่ทางราชการ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาบูมและมีสีสันอีกครั้ง การลงทุนด้านการท่องเที่ยวของชาวต่าง ชาติหรือคนไทยก็เริ่มเกิดขึ้นเปฌ็นจำนวนมากเช่นกัน…