‘ฟิลิปปินส์’ ติดเชื้อใหม่พุ่ง 4 พันราย! โควิดโลก17.7 ล. ‘สหรัฐ-ญี่ปุ่น’ ตุนวัคซีนร้อยล้านโดส

18

‘อิศรา’ อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 17.7 ล. – ‘รบ.สหรัฐ’อนุมัติอีก 6.5 หมื่นล้าน ตุนวัคซีน 100 ล้านโดส-‘เอฟดีเอ’เคาะใช้เซรุ่มวิทยาตรวจหาผู้ติดโควิด -‘เยอรมนี’ประกาศตรวจ PCR ผู้เข้าประเทศฟรี-‘นอร์เวย์’เจอผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญ 4 ราย-‘ญี่ปุ่น’ บรรลุข้อตกลง บ.ไฟเซอร์ นำเข้าวัคซีน 120 ล้านโดส ก่อนสิ้น มิ.ย. 64 ความหวังช่วยจัดโอลิมปิกปีหน้า- ล่าสุด ‘ฟิลิปปินส์’ ติดเชื้อใหม่พุ่ง 4 พันราย

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 1 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 17,731,906 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 268,409 ราย เสียชีวิต 681,977 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,014 ราย

สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 4,702,830 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 67,845 ราย เสียชีวิต 156,710 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,425 ราย

โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 9,007 ราย

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ ในสหรัฐฯ มีรายงานว่า ทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องวัคซีนกับบริษัทซาโนฟี่ สัญชาติฝรั่งเศส และบริษัทแกลกโซสมิธไคลน์ (GlaxoSmithKline) สัญชาติอังกฤษ โดยรัฐบาลสหรัฐจะจ่ายเงินให้กับบริษัททั้ง 2 แห่ง เป็นจำนวน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (65,646,000,000 บาท) เพื่อแลกกับการที่บริษัททั้ง 2 แห่งจะส่งวัคซีนที่ผ่านการทดลองและได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้แล้วจำนวน 100 ล้านโดส ซึ่งจะสามารถครอบคลุมการรักษาประชาชนสหรัฐฯได้จำนวนอย่างน้อย 50 ล้านคน

ขณะที่ องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯหรือเอฟดีเอ ได้อนุมัติการใช้หลักเซรุ่มวิทยา ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 เริ่มต้นจำนวน 2 ราย

โดยการใช้เซรุ่มวิทยาเพื่อตรวจผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ดังกล่าว นอกจากจะทำให้สามารถตรวจหาสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี้กับไวรัสโควิด 19 แล้ว ยังจะสามารถใช้วัดจำนวนแอนติบอดี้ในตัวผู้ติดเชื้อว่ามีจำนวนเท่าไรได้ด้วย

การตรวจผู้ติดโควิด 29 ด้วยหลักเซรุ่มวิทยา (อ้างอิงรูปภาพจาก https://covidtestingproject.org/faq.html)

ส่วนที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม 416,179 ราย ติดเชื้อใหม่ 7,730 ราย เสียชีวิต 46,000 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 639 ราย

ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 2,662,485 ราย ติดเชื้อใหม่ 48,696 ราย เสียชีวิต 92,475 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,098 ราย

ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 834,499 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,509 ราย เสียชีวิต 13,802 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 129 ราย

ขณะที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่จำนวน 1,012 ราย ล่าสุดได้มีการประกาศว่า ในวันที่ 1 ส.ค. เยอรมนีจะเริ่มกระบวนการตรวจหาเชื้อในทางเดินหายใจหรือตรวจแบบ PCR กับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกราย โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบว่าผู้ถูกตรวจสอบติดเชื้อหรือไม่

ส่วนที่นอร์เวย์ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 32 ราย ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 4 รายบนเรือสำราญสัญชาตินอร์เวย์ชื่อว่า Roald Amundsen จึงทำให้ต้องมีการกักตัวผู้โดยสารจำนวน 177 รายบนเรือดังกล่าว

เรือสำราญ Roald Amundsen (อ้างอิงรูปภาพจาก https://tekdeeps.com/the-coronavirus-tromso-corona-eruption-on-the-hurtigruten/)

ทวีปเอเชียอินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,696,780 ราย ติดเชื้อใหม่ 57,430 ราย เสียชีวิตสะสม 36,551 ราย เสียชีวิตใหม่ 765 ราย

สำหรับประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 127 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 4ราย อีก 112 ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และอีก 11 รายเป็นการระบาดในมณฑลเหลียวหนิง และอีก 1 รายเป็นการระบาดในกรุงปักกิ่ง

ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 121 ราย

ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,568 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดมา โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 463 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว

ส่วนสถานการณ์เพิ่มเติมในประเทศญี่ปุ่นมีรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ซึ่งเป็นบริษัทที่กำลังทดลองวัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ

โดยรายละเอียดข้อตกลงนั้นระบุว่า ถ้าหากบริษัทเสร็จสิ้นการทดลอง จนสามารถนำเอาวัคซีนไปใช้รักษาวัคซีนโควิด 19 ได้ ทางบริษัทจะส่งวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดสสำหรับประชาชนจำนวน 60 ล้านคน ภายในช่วงเวลาไม่เกินก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. 2564

ซึ่งทางด้านของนายอัลเบอร์ต้า โบร์ลา ผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์กล่าวว่า ทางบริษัทนั้นมีความต้องการที่จะส่งวัคซีนให้กับประเทศญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด โดยบริษัทนั้นภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสนับสนุนประเทศญี่ปุ่น ในการสร้างความพยายามหลอมรวมผู้คนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการจัดโอลิมปิกในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ความหวังนั้นเป็นจริงก็คือการทดลองรักษาของบริษัทที่จะทำให้วัคซีนสามารถใช้งานได้จริง

สำหรับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์นั้น เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือกับบริษัทไบออนเทค (BioNTech) สัญชาติเยอรมนี และบริษัทยาสัญชาติจีนโฟซันฟาร์มา (Fosun Pharma) โดยในวันที่ 1 ก.ค. ทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมกันประกาศผลการทดลองวัคซีนแบบเอ็มอาร์เอ็นเอ และเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศการทดลองในวัคซีนในระยะที่ 3 หรือการทดลองแบบมีประสิทธิภาพในอาสาสมัครจำนวน 30,000 รายในประเทศสหรัฐฯ อาร์เจนติน่า และเยอรมนี

สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 108,376 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,040 ราย เสียชีวิตสะสม 5,131 ราย เสียชีวิตใหม่ 73 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน

ขณะที่ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 4,063 ราย ทำให้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในอาเซียน

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 45 ราย และเสียชีวิตใหม่ 2 ราย

ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 493,183 ราย ติดเชื้อใหม่ 11,014 ราย เสียชีวิต 8,005 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 193 ราย

ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 657 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 8 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 627 ราย

ส่วนปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย

เรียบเรียงจาก : https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak

Credit : https://www.isranews.org/article/isranews/90822-cooov01.html

- Advertisement -