ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช.สอบผู้ว่าฯ กปภ. ปมตั้ง 2 กุนซือ “ขัดกฎหมายจัดจ้าง?” พนักงาน “ผวา” เจอแผน “หาแพะ”

59

  เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา มีเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งเรื่องหนึ่ง ก็คือกรณีที่คุณศรีสุวรรณ จรรยา นักร้อง (เรียน) เบอร์ 1 ของประเทศ ในนามของเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย เอาผิดต่อผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กรณีสั่งให้มีการจ้างเหมาที่ปรึกษา 2 ราย โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และขัดต่อระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 อันเข้าข่ายความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ระบุว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยแต่ตั้งผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคคน ใหม่ (นายวิบูลย์ วงสกุล) เข้ามาทำหน้าที่ไม่กี่วัน ได้มีการสั่งอนุมัติและประกาศให้แต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายวงเงินการจ้าง 650,000 บาท โดยมีระยะเวลาการจ้าง 13 เดือน ในอัตรา 50,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 66 หลังจากนั้น ได้แต่งตั้งให้ไปเป็นคณะทำงานด้านต่างๆ อีก

ต่อมาในวันที่ 19 ก.ย. 65 ได้ลงนามเห็นชอบให้ประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมอีก 1 คน โดยมีวงเงินการ จ้าง 600,000 บาท มีระยะเวลาการจ้างเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 ถึงวันที่ 30 ก.ย .66

ซึ่งเสมือนเป็นการหยามคนของประปาหรือไม่ ทั้งๆ ที่ กปภ.มีวิศวกรกันมากมายเต็มไปหมด

“การจ้างที่ปรึกษาด้านกฎหมาย มีระยะเวลาการจ้าง 13 เดือนนั้น ถือว่าเป็นการจ้างเกิน 1 ปีงบประมาณ (12 เดือน) และถือเป็นการจ้างต่อเนื่อง อาจถือได้ว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนมาก ที่ กค 0406.4/ว67 ลงวันที่ 14 ก.ค. 2553 และหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0406.4/ว337 ลงวันที่ 17 ก.ย. 2553 อีกทั้งการจ้างที่ปรึกษาทั้ง

2 คนดังกล่าว มีลักษณะเป็น “งานจ้างที่ปรึกษา” ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ด้วย” คุณศรีสุวรรณ ระบุ พร้อมบอกด้วยว่า

นอกจากนี้ การจ้างเหมาที่ปรึกษาดังกล่าว มีสถานะเป็นเพียง “ผู้รับจ้างทำของ”  ไม่ถือว่าเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของการประปาส่วนภูมิภาค (ตามหนังสือกระทรวงการคลังข้างต้น) ซึ่งหากปล่อยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของทางราชการหรือของ กปภ.ได้ จะถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลังข้างตัน ข้อ 1.3 อันจะนำมาซึ่งการรั่วไหลของข้อมูลลับของทางราชการ ทำให้หน่วยงานรัฐเสียหายได้

“การใช้อำนาจ ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว จะยังผลให้เกิดความเสียหายต่อการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ แม้จะมีการไหวตัวรีบเซ็นยกเลิกการจ้าง 2 ที่ปรึกษาดังกล่าวเมื่อ วันที่ 9 ม.ค. 66 ที่ผ่านมาไปแล้ว แต่ถือได้ว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว เพราะมีการเบิกจ่ายค่าจ้างไปแล้วหลายเดือน ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อได้สวนและวินิจฉัยเอาผิดผู้ว่าการ กปภ.ดังกล่าว ตามครรลองของกฎหมายต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

ทั้งหมดคือเนื้อหาคร่าวๆ ที่คุณศรีสุวรรณ นำมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. แต่ที่สมาพันธ์นักข่าวฯ อยากจะขอเพิ่มเติม เจาะลึกลงไปอีกนิดให้เห็นชัดเจนขึ้น ก็คือไทม์ไลน์ของเรื่องความไม่ชอมมาพากลในเรื่องนี้

ไทม์ไลน์ ผวก กปภ สั่งจ้างที่ปรึกษาโดยผิด พ.ร.บ. (คลิก Link)

อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์นักข่าว ยังทราบเพิ่มมาด้วยว่า มีมือดีแอบส่งเรื่องร้องเรียนไปยังประธานคณะกรรมการบริหาร กปภ. หรือที่เรียกกันว่า ประธานบอร์ด กปภ. ก่อนหน้านี้แล้ว

ประธานบอร์ดฯ ก็ใจดี อาจเป็นเพราะยังไงก็คงต้องเห็นหน้าคาตา พบปะพูดคุยหารือกันมาพอสมควร ก็ขอเพียงให้ผู้ว่าฯ ชี้แจงมา ไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนในทันที

ครับ … ก็มาถึงที่ว่าแปลกและน่าสนใจที่จั้วหัวไว้ ก็คือ ผู้ว่าฯ แกสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง จะทำการสอบสวนใคร หรือเพื่อมาหาข้อมูลไปชี้แจง อันนี้ยังไม่ทราบ

แต่คนใน กปภ.และผู้เกี่ยวข้องเขาหวั่นไหวกันไปหมด ไหนสอบไปแล้วก็คงไปเจอแบบที่คุณศรีสุวรรณร้องเรียนไป แล้วจะรายงานยังไง!!?

ที่เขาหนักใจที่สุดคือ นี่เป็น “แผนการหาแพะ” มาสังเวยหรือเปล่า…!!!?

คุณศรีสุวรรณ แกก็ตอบเรื่องนี้เหมือนกันว่า การที่ประธานบอร์ด กปภ.ให้ผู้ว่าการ กปภ.ชี้แจ้ง จนส่งผลให้ผู้ว่าฯ กปภ.จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริงนั้น น่าจะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เพราะหากประธานบอร์ดฯ รู้เรื่องนี้แล้วก็ควรจัดตั้งคณะกรรมการจากบุคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมการสอบ ไม่ใช่ให้ผู้ว่าฯ ที่มีส่วนได้เสียโดยตรงไปทำ โดยเอาลูกจ้างใน กปภ.ที่เป็นลูกน้องมาสอบตัวเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ลูกน้องจะมาสอบเอาผิดเจ้านาย ควรต้องเอาบุคคลที่เป็นกลางเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้หากประธานบอร์ด กปภ. รู้เห็นพยายามรอมชอมก็จะมีความผิดไปด้วย

แบบนี้ก็มีด้วย….

ทีมข่าวสมาพันธ์ฯ

- Advertisement -