ป.ป.ช.จับมือ ศธ.-สพฐ.เฝ้าระวังการจ่ายเงิน ‘แป๊ะเจี๊ยะ’ ฝากเด็กเข้าเรียน ติดตามใกล้ชิด ‘การรับเงื่อนไขพิเศษ’ เสี่ยงเปิดช่องทุจริตได้ เตรียมสุ่มตรวจโรงเรียนทั่วประเทศ เล็งคลอดกฎเหล็กป้องกัน
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต่อคณะรัฐมนตรี โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมาตรการไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปนั้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2563 สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจากในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ของทุกปี เป็นระยะเวลาที่มีการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาทั่วประเทศ และอาจมีความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำทุจริตเกี่ยวกับการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา
สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ในการประสานการดำเนินการร่วมกันเพื่อตรวจสอบ ติดตาม และสังเกตการณ์ การดำเนินการรับนักเรียนประจำปีการศึกษา 2563 ตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวได้เลื่อนออกไป เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตพื้นที่ ทั่วราชอาณาจักร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-30 เม.ย. พ.ศ. 2563 จึงส่งผลกระทบต่อกระบวนการรับสมัคร การคัดเลือกหรือสอบคัดเลือก การจับฉลากการประกาศผล การรายงานตัว และการมอบตัวที่ได้กำหนดวันไว้ตามปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2563 ซึ่งเดิมกำหนดดำเนินการระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563
สพฐ. ได้กำหนดปฏิทินในการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 ใหม่เรียบร้อยแล้ว และแจ้งเวียนไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต ให้ดำเนินการแจ้งโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ดำเนินการรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างวันที่ 3 – 12 พ.ค. 2563 โดยแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2563 มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติเพิ่มเติม คือ การดำเนินงานการรับนักเรียนปีการศึกษา 2563 เป็นการดำเนินงานรับนักเรียนผ่านการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อสำคัญเพื่อช่วยบริหารจัดการ และอาจจะดำเนินการโดยใช้ระบบการรับสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ (โปรแกรมใบสมัคร) Line ของโรงเรียน E – mail ของโรงเรียน Google Forms ไปรษณีย์ หรือวิธีอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละบริบทพื้นที่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยง
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สถานศึกษาบางแห่งอาจมิได้มีการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อน จึงอาจเกิดปัญหาหรือความไม่พร้อมในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของนักเรียนบางพื้นที่ ดังนั้น ประเด็นหนึ่งที่สำคัญอาจเกิดความเสี่ยงต่อการทุจริตเกี่ยวกับการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาได้ เช่น นักเรียนผู้ด้อยโอกาสไม่ทราบข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการรับนักเรียนอย่างถูกต้องและครบถ้วนทุกขั้นตอน ซึ่งอาจทำให้พลาดการสมัครสอบหรือคัดเลือกกรณีความสามารถพิเศษหรือเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ได้ การเรียกรับประโยชน์ในการช่วยดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวกับการรับนักเรียน เป็นต้น
นอกจากนี้ แนวทางการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 ของ สพฐ. มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียนที่ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชน รวมทั้งเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันตรวจสอบ ติดตาม และสังเกตการณ์ เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาเกี่ยวกับ “การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ” ซึ่งกำหนดว่า ในกรณีที่คณะกรรมการรับนักเรียนเห็นว่าโรงเรียนมีความจำเป็นจะต้องรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษเข้าเรียนให้ใช้หลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) นักเรียนที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของผู้บริจาคที่ดินและสิ่งก่อสร้างเพื่อจัดตั้งโรงเรียน ซึ่งมีเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกันมาก่อน ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 2) นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส 3) นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องรับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ และ 4) นักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูและบุคลากรในโรงเรียนนั้น
สำหรับเงื่อนไขพิเศษนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น หากโรงเรียนเห็นว่ามีความจำเป็นให้เสนอคณะกรรมการรับนักเรียนระดับพื้นที่การศึกษาและระดับจังหวัดให้ความเห็นชอบตามลำดับ โดยต้องได้รับความเห็นชอบก่อนประกาศรับสมัครนักเรียน เปิดโอกาสและกระจายอำนาจในการใช้ดุลพินิจในการกำหนดเงื่อนไขพิเศษในการรับนักเรียนให้กับคณะกรรมการรับนักเรียนระดับโรงเรียน และคณะกรรมการรับนักเรียนในระดับพื้นที่ สามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษได้อย่างอิสระ โดยไม่มีเงื่อนไขกำหนดไว้เป็นการเฉพาะดังเดิม จึงเป็นประเด็นที่อาจมีความเสี่ยงในการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ ซึ่งอาจนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ หรือเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาได้
สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง และกลุ่มภารกิจปฏิบัติการทั่วประเทศ (สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. พร้อมด้วยส่วนราชการในสังกัดทั่วประเทศ (ศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ จะมีการกำหนดแนวทาง มาตรการ และจัดทำแผนการดำเนินการสุ่มตรวจสอบการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 ร่วมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับนักเรียนเข้าเรียนอย่างเป็นรูปธรรม และให้เกิดผลในทางปฏิบัติรวมทั้งเป็นกลไกการควบคุมดูแลตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ในการดำเนินการเกี่ยวกับการรับนักเรียนของโรงเรียนทั่วประเทศพร้อมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชน รวมทั้งเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบและร่วมกันเฝ้าระวังปัญหาการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาต่อไป
Cr: https://www.isranews.org/article/isranews/89955-isranews-191.html