ศาลฎีกาฯฟัน นายก อบต. คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. ไม่แสดงเงินลงทุน 1 ล้าน ในธุรกิจรับเหมา ให้พ้นจากตำแหน่งทันที จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องราย น.ส. กนกวรรณ ญาวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีเข้ารับตำแหน่ง ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.คำเขื่อนแก้วที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. คำเขื่อนแก้ว เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 โดยได้แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 และยังคงดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 โดยไม่แสดงรายการเงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด เศรษฐี ชมตะวัน จำนวน 1,000,000 บาท
พิพากษาว่า นางสาวกนกวรรณ ญาวงค์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.คำเขื่อนแก้วที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสองและห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.195/2562 วันที่ 25 ก.ค.562)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด เศรษฐี ชมตะวัน จดทะเบียนวันที่ 27 ก.พ. 2555 ทุน 2 ล้านนบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
Credit : https://www.isranews.org/article/isranews-news/89514-news-100.html