พบใช้ ส.ค.1 แปลงอื่นสวม! ปปง.โชว์คำสั่งอายัด 3 บัญชีเงินฝากกว่า 5 แสน เจ้าของ 2 รีสอร์ทดังเกาะหลีเป๊ะหุ้นส่วน อดีตนายก อบจ. สตูล บุกรุกพื้นที่อุทยานฯตะรุเตา กว่า 6 ไร่ หลังศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 8 เดือนคดีถึงที่สุด กรมอุทยานแห่งชาติฯชง
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 คณะกรรมการธุรกรรมสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.52 /2563 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับกากระทําความผิดไว้ชั่วคราว ราย นายเที่ยน เหมือนกุล เจ้าของรีสอร์ท ชื่อ ภูริตา รีสอร์ท และสไมล์ ซันเซต รีสอร์ท ก่อสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาบริเวณเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล หลังจากได้รับรายงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และศาลจังหวัดสตูลได้มีคําพิพากษา จําคุก 1 ปี 8 เดือน และศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนทั้ง 2 คดี ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว ทรัพย์สินที่ ปปง.อายัดเป็นบัญชีเงินฝาก 3 รายการ รวมเงินทั้งสิ้น 516,624.42 บาท
คำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรมระบุรายละเอียดว่า ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงาน จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามหนังสือลับที่ ทส 0903.4/12228 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2560 เรื่อง ขอส่งสําเนาคําพิพากษาเพื่อดําเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติหรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 เจ้าพนักงานป่าไม้ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบที่ดินในเขต อุทยานแห่งชาติตะรุเตาบริเวณเกาะหลีเป๊ะพบว่ามีการบุกรุกเข้าไปก่นสร้าง แผ้วถาง และยึดถือครอบครองป่า โดยตัดต้นไม้ ขุดไถ ปรับหน้าดิน และปลูกสร้างรีสอร์ทชื่อ ภูริตา รีสอร์ท และสไมล์ ซันเซต รีสอร์ท ซึ่งเป็นห้องพักรวมห้องอาหารที่สร้างแล้วเสร็จ รวมจํานวน 36 ห้อง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจํานวน 2 ห้อง บนเนื้อที่รวมทั้ง 2 รีสอร์ท จํานวน 6 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา โดยผู้เฝ้าพื้นที่แจ้งว่านายเทียน เหมือนกุล เป็นเจ้าของรีสอร์ททั้ง 2 แห่ง ซึ่งนายเที่ยน เหมือนกุล ให้การว่ารีสอร์ท ดังกล่าวตั้งอยู่ในที่ดินตามแบบแจ้ง การครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) และอ้างว่านายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ ได้ถือสิทธิครอบครองที่ดินตาม ส.ค.1 ดังกล่าว ต่อจากผู้ครอบครองคนก่อน ต่อมาภายหลังนายเที่ยน เหมือนกุล ได้ทําสัญญาร่วมทุนกับนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ เพื่อก่อสร้างรีสอร์ทในที่เกิดเหตุ
ต่อมาวันที่ 14 กรกฎาคม 2557 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอาณาเขต และตําแหน่งที่ตั้งของที่ดินตาม ส.ค.1 ดังกล่าวพบว่าอาณาเขตและตําแหน่งที่ตั้งของที่ดินไม่ตรงกับพื้นที่จริง จึงทําการตรวจยึดพื้นที่เกิดเหตุ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ ให้ดําเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันยึดถือ ครอบครองที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า เก็บหา นําออกไป ทําด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายหรือทําให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ น้ํามันยาง น้ํามันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทําด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทําลายหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาศาลจังหวัดสตูลได้มีคําพิพากษาในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ 267 – 268/2560 พิพากษาลงโทษนายเที่ยน เหมือนกุล รวมจําคุกมีกําหนด 1 ปี 8 เดือน และศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนทั้ง 2 คดี ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (15) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุ อันควรเชื่อได้ว่านายเที่ยน เหมือนกุล กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว
จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินเงินฝาก 3 รายการไว้ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ในชื่อ นายเที่ยน เหมือนกุล 1 บัญชีและ นางสมทรง เหมือนกุล 2 บัญชี
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือ “โกโต้ง” หุ้นส่วนของ นายเที่ยน เหมือนกุล ) เป็นนักธุรกิจเจ้าของธุรกิจรีสอร์ทและเรือนำเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และเป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล (อบจ.สตูล) เคยตกเป็นข่าวเกี่ยวพันเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวโรฮีน ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษจำคุก 75 ปี ศาลอุทธรณ์ยืน อ่านประกอบ : เจาะเครือข่ายค้ามนุษย์จังหวัดสตูล
(อ้างอิงข่าว https://www.bbc.com/thai/thailand-50244551)
cr.https://www.isranews.org/article/isranews/89392-news03-33.html