คุก 20 ปี แต่รอลงโทษ! ป.ป.ช.ฟ้องเอง-อดีตนายกฯ เหนือคลอง จัดซื้อน้ำมันบ.ตัวเอง

143

เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘ดุสิต ธุระหาญ’ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ จัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงบริษัทตัวเอง ที่ ป.ป.ช.ฟ้องเองไม่ผ่าน อสส. ล่าสุด ศาลจังหวัดกระบี่ พิพากษาลงโทษ 66 กระทง คุก 66 ปี ปรับ 132,000 บาท รับสารภาพ ลดเหลือ 396 เดือน ปรับ 66,000 บาท รวมโทษทุกกระทง คงจำคุก 20 ปี แต่โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้ากรณี นายดุสิต ธุระหาญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ กระทำการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างเทศบาลตำบลเหนือคลอง กับ บริษัทดุสิตมอเตอร์ออยล์ จำกัด ถือเป็นการมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาที่เทศบาลตำบลเหนือคลอง เป็นคู่สัญญาหรือในกิจการที่กระทำให้แก่เทศบาล

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช ลงมติชี้มูลความผิด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2553 และเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดกระบี่ โดยไม่ผ่านอัยการสูงสุด (อสส.) ตั้งแต่ช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา

ล่าสุด ศาลจังหวัดกระบี่ พิพากษาลงโทษจำเลย จำคุก 20 ปี แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

โดยศาลฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะจำเลยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเหนือคลอง ได้เข้าทำสัญญาจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงกับบริษัท ดุสิตมอเตอร์ออยล์ จำกัด ที่จำเลยเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวอยู่ อันถือได้ว่า จำเลย มีส่วนได้เสียในการเข้าทำสัญญาถือได้ว่ามีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยตรงตรงหรือทางอ้อมในสัญญาที่เทศบาลตำบลเหนือคลอง เป็นคู่สัญญาหรือในกิจการที่กระทำให้แก่เทศบาลโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่เทศบาล

พิพากษาว่า การกระทำของจำเลย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152, 157 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91

จำคุก กระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 2,000 บาท รวม 66 กระทง จำคุก 66 ปี ปรับ 132,000 บาท

จำเลย รับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คงจำคุก กระทงละ 6 เดือน ปรับกระทงละ 1,000 บาท รวม 66 กระทง จำคุก 396 เดือน ปรับ 66,000 บาท

เมื่อรวมโทษทุกกระทง คงจำคุก 20 ปี ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

ทั้งนี้ ป.ป.ช. ระบุในหมายเหตุว่า คดีถึงที่สุดแล้ว

สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Cr : https://www.isranews.org/article/isranews/93897-investigative00-6.html

- Advertisement -