“….การลงโทษ โดยไล่ออก นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว กรณีทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และฐานจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับธนาคาร ตามคําสั่งธนาคารที่ 4940/2553 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2553 รวมถึง การชดใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับลูกค้า ตามคําสั่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และแจ้งความ ดําเนินคดีทางอาญา … ในส่วนของพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 ราย ธนาคารลงโทษจากการละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุ ให้ผู้ทุจริตสามารถดําเนินการถอนเงินจากบัญชีลูกค้า ทําให้ลูกค้าและธนาคารได้รับความเสียหาย โดยลงโทษภาคทัณฑ์ มีกําหนดระยะเวลา 1 ปี นอกจากนี้ ยังต้องร่วมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ตามมติคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและความผิดทางละเมิด ซึ่งมีสัดส่วนชดใช้ตามข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้น…”
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยอาญา แก่ นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานการเงิน 7 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขามวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และพวก 5 ราย ประกอบไปด้วย นางรัตนา เสรีชัยประดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าการเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสระบุรี , นางดวงพร วรธรรม ตำแหน่งหัวหน้าการเงิน ธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสาขาสระบุรี , นายมทนะ รินสันเทียะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขามวกเหล็ก , นางสุรีย์ กิ่งโก้ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขามวกเหล็ก, นางทัศนีย์ ประเสริฐกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขามวกเหล็ก กรณียักยอกเงินในบัญชีเงินฝากของลูกค้าไป เป็นประโยชน์ส่วนตัว นั้น
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการและโฆษกธนาคาร ทําการแทนผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ทำหนังสือชี้แจงข่าวกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตพนักงาน ธ.ก.ส. ดังกล่าว
ระบุว่า ตามที่ สํานักข่าวอิศรา ได้เผยแพร่ข่าว ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญาอดีตพนักงาน ธ.ก.ส.สาขามวกเหล็ก และธ.ก.ส.สาขาสระบุรี ยักยอกเงินบัญชีลูกค้าและอ้างถึงพนักงานในระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาและพนักงานการเงินที่อยู่ใน เหตุการณ์รวม 5 ราย ได้ถูกสอบสวน ในการกระทําผิดด้วย นั้น
ธ.ก.ส.ขอเรียนชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
1. เรื่องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเดือนมิถุนายน 2553 ซึ่งทันทีที่ธนาคารได้รับทราบข้อมูล ได้เร่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทางวินัยและความรับผิดทางละเมิด โดยได้มีการลงโทษทางวินัยพร้อมการชดใช้ใน ความผิดทางละเมิดไปแล้ว กล่าวคือ
1.1. การลงโทษ โดยไล่ออก นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว กรณีทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และฐานจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับธนาคาร ตามคําสั่งธนาคารที่ 4940/2553 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2553 รวมถึง การชดใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับลูกค้า ตามคําสั่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และแจ้งความ ดําเนินคดีทางอาญา
1.2. ในส่วนของพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 ราย ธนาคารลงโทษจากการละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุ ให้ผู้ทุจริตสามารถดําเนินการถอนเงินจากบัญชีลูกค้า ทําให้ลูกค้าและธนาคารได้รับความเสียหาย โดยลงโทษภาคทัณฑ์ มีกําหนดระยะเวลา 1 ปี นอกจากนี้ ยังต้องร่วมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ตามมติคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและความผิดทางละเมิด ซึ่งมีสัดส่วนชดใช้ตามข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้น
2. ธ.ก.ส.ได้ชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยเต็มจํานวนให้แก่ลูกค้าที่ได้รับความเสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3. เนื่องจากนางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว เป็นพนักงานองค์กรของรัฐ ธนาคารจึงส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตร 89 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
4. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือที่ ปช 0024/0169 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ขอให้พิจารณา โทษทางวินัยกับนางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าว ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้ดําเนินการลงโทษทางวินัยไปก่อนแล้ว สําหรับความผิดทางอาญา นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อดําเนินคดีอาญาต่อไป
ธ.ก.ส.ยึดมั่นการดําเนินงานภายใต้หลัก ความซื่อสัตย์สุจริต ความโปร่งใส และมีธรรมภิบาล โดยมีกฎเกณฑ์ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติงานที่ชัดเจนในด้านต่าง ๆ ให้แก่พนักงาน ควบคู่กับการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร เพื่อสร้าง สิ่งที่ดีงามในฐานะที่เป็นองค์กรของรัฐ ทั้งนี้ หากลูกค้าพบเห็นการทุจริตหรือมีปัญหาขัดข้องประการใด สามารถติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาที่ใช้บริการ หรือ ที่ Call Center 02-555-0555
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาชี้แจงข้อมูลดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป และขอขอบคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ
นายสมเกียรติ กิมาวหา
รองผู้จัดการและโฆษกธนาคาร ทําการแทนผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
Credit : https://www.isranews.org/article/isranews/93401-open096.html