เครือข่ายนักเรียนชุมนุมปราศรัย เรียกร้อง รมว.ศึกษาฯ แก้ไขปัญหาการคุกคามละเมิดสิทธิเสรีภาพในโรงเรียน ปฏิรูปกฎระเบียบที่สะท้อนค่านิยมชายเป็นใหญ่-ชี้ ครูต้องตระหนักต่ออธิปไตยในร่างกายของเด็ก เผยหลายโรงเรียนถูกครูกระทำรุนแรง-ด่าทอ-ตบตี-ยึดโทรศัพท์-เรียกเข้าห้องปค. จากกรณีชูสามนิ้วผูกโบว์ขาวแสดงสัญลักษณ์
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าในช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการนักเรียนกลุ่มที่เรียกตนเองว่ากลุ่มนักเรียนเลว ร่วมด้วยเครือข่ายนักเรียนอีกหลายโรงเรียนจัดชุมนุมปราศรัย และเรียกร้องให้นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับฟังข้อเรียกร้องของนักเรียนให้มีการปฏิรูปการศึกษา โดยตัวแทนนักเรียนหลายคนขึ้นปราศรัยเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในโรงเรียนหลายประการ อาทิ เสรีทรงผม เรียกร้องให้ปฏิรูปกฎระเบียบที่สะท้อนถึงการเหยียดเพศ สะท้อนค่านิยมชายเป็นใหญ่ เรียกร้องให้สามารถแต่งกายได้อย่างอิสระ เรียกร้องให้ครูยุติการคุกคามต่อนักเรียน โดยเฉพาะหลังจากที่มีรายงานว่านักเรียนในหลายโรงเรียนถูกครูกระทำรุนแรงด้วยกายและวาจา จากกรณีที่นักเรียนชูสามนิ้วและแสดงสัญลักษณ์ผูกโบว์ขาวซึ่งเป็นการแสดงออกทางการเมือง
จากนั้น ในช่วงเวลา 16.30 น.ตัวแทนจากกลุ่มนักเรียนเลว ขึ้นปราศรัยขอให้หยุดคุกคามเด็กนักเรียน เนื่องจากยังมีรายงานการที่เด็กถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง เด็กทุกคนควรมีสิทธิแสดงออกทางการเมือง
ขณะที่ตัวแทนนักเรียนอีกราย ได้ขึ้นปราศรัยโดยตั้งคำถามต่ออำนาจนิยมและระบบการศึกษา วิพากษ์ถึงประเด็นสิทธิเสรีภาพในร่างกายตนเองที่ถูกควบคุมโดยกฎที่สะท้อนค่านิยมชายเป็นใหญ่ อาทิ การบังคับให้นักเรียนหญิงต้องใส่เสื้อชั้นในสีขาว ใส่เสื้อซับสีขาวทับเสื้อชั้นใน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นการละเมิดอธิปไตยในร่างกายของนักเรียน
ตัวแทนนักเรียนรายนี้ระบุว่า “กฎในโรงเรียนหลายๆ อย่าง ยังสนับสนุนแนวคิด Victim Blaming บอกให้ผู้หญิงระวังตนเองโดยไม่บอกให้ผู้ชายระวังตนเอง โรงเรียนหลายที่ก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนั้น เช่น การกำหนดความยาวของกระโปรง ซึ่งบางครั้งอาจจะดูมากไป การกำหนดสีเสื้อชั้นใน กำหนดบทบาททางเพศหรือ Gender role ว่าเพศหญิงจะต้องเป็นเพศหญิงตามอุดมคติแบบไหน โดยไม่ตั้งคำถามว่า ขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติตามนั้น แฝงค่านิยมชายเป็นใหญ่ไว้หรือไม่ แฝงความคิด Victim blaming ไว้หรือไม่”
“เราไม่ควรเคยชินกับการถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพในร่างกาย การละเมิดอธิปไตยในร่างกาย แม้กระทั่งในบางโรงเรียน การออกมาตั้งคำถามกับกฎโรงเรียน การออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและอธิปไตยในร่างกายตนเองที่ควรจะมีตั้งแต่แรก การออกมาตั้งคำถามกับการกระทำของครูก็เป็นเรื่องที่ผิด ถูกตีความไปว่าไปสร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีให้กับโรงเรียน ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญมาตราที่ 34 ว่าด้วยเรื่องการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” ตัวแทนนักเรียนระบุ
ต่อมา นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาที่บริเวณจัดชุมนุม เพื่อรับฟังคำปราศรัยและข้อเรียกร้องของนักเรียน ทั้งนี้ เกิดเหตุฉุกละหุกเล็กน้อย เนื่องจากมีสื่อมวลชนรายล้อมนายณัฐพลจำนวนมาก และนายณัฐพลพยายามจะเดินมายังบริเวณเวทีปราศรัยของตัวแทนนักเรียน แต่นักเรียนได้ช่วยกันประกาศห้ามไว้ โดยขอให้นายณัฐพลไปนั่งต่อแถวที่ท้ายแถวนักเรียนอย่างเท่าเทียมกัน ดังเช่นที่นักเรียนผู้มาชุมนุมปฏิบัติคือนั่งตามลำดับก่อน-หลัง แกนนำนักเรียนผู้ปราศรัยยืนยันเป็นระยะด้วยว่า การมาในครั้งนี้ มาเพื่อให้รัฐมนตรีรับฟังเสียงจากนักเรียน นายณัฐพลจึงเดินไปนั่งที่ท้ายแถวตามคำประกาศของตัวแทนนักเรียน
จากนั้น เวลา 17.00 น.ตัวแทนนักเรียนรายต่อมาขึ้นปราศรัยในประเด็นความหลากหลายทางเพศ ระบุว่านักเรียนกลุ่มความหลากหลายทางเพศถูกคุกคามและถูกละเมิดในโรงเรียนทั้งด้วยวาจาและผ่านทางกฎระเบียบที่สะท้อนว่าไม่เปิดกว้างในเรื่องการยอมรับเพศที่หลากหลาย
ก่อนที่จะมีการส่งเสียงจากนักเรียนที่นั่งชุมนุมอยู่มายังตัวแทนนักเรียนผู้ปราศรัยบนเวที ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถ่ายรูปนักเรียน จึงมีการประกาศเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาปกป้องนักเรียนที่ถูกคุกคาม
จากนั้นมีนักเรียนขึ้นปราศรัยต่อเนื่องและมีกิจกรรมสันทนาการ ร้องเพลงล้อการเมือง อาทิ ร้องเพลงผู้ใหญ่ที่ดีต้องมีหน้าที่ 10 ประการ และเพลงลา มะลิลา ขณะที่ประเด็นหลักในการปราศรัยยังคงระบุถึงกรณีที่นักเรียนถูกถูกคุกคามจากการชูสามนิ้ว หรือติดโบว์ขาวเพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง โดยระบุถึงการคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิ ถูกครูด่าและไล่ให้ออกไปจากโรงเรียน มีการยึดโทรศัพท์นักเรียน มีการตบตีเด็ก มีการบังคับให้เด็กเอามือที่ชูสามนิ้วลง เรียกเด็กนักเรียนเข้าห้องปกครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในช่วงเวลาประมาณ 17.40 น. ตัวแทนนักเรียนมีประเด็นที่จะเอ่ยถึงข้อเรียกร้องอื่นๆ ต่อนายณัฐพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมีการการประกาศถึงนายณัฐพลขอให้โบกมือหรือส่งสัญญาณเพื่อแสดงตัวว่ายังฟังนักเรียนปราศรัยอยู่แต่นายณัฐพลได้เตรียมตัวเดินกลับเข้าไปในกระทรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความพยายามอย่างน้อย 2 ครั้งที่นายณัฐพลจะเข้ามายังบริเวณเวทีปราศรัย แต่ตัวแทนนักเรียนได้แสดงจุดยืนไม่ให้นายณัฐพลเข้ามายังบริเวณเวทีของนักเรียน โดยยืนยันให้นายณัฐพลนั่งฟังร่วมกับนักเรียนที่มาชุมนุมอย่างเท่าเทียม เมื่อใดที่มีความพยายามจะฝ่าแนวกั้นเข้ามายังเวที นักเรียนได้ร่วมกันเป่านกหวีดเพื่อเตือนไม่ให้เข้ามายังบริเวณดังกล่าว
เมื่อนายณัฐพลกลับไปแล้ว การปราศรัยจากตัวแทนนักเรียนยังดำเนินต่อไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.จึงมีการทำกิจกรรมคือร่วมกันเดินไปผูกโบว์ขาวที่รั้วของกระทรวงศึกษาธิการ
ก่อนการชุมนุมจะจบลง นักเรียนได้ร่วมกันชูสามนิ้ว โดยตัวแทนนักเรียนได้กล่าวขอให้แสดงจุดยืนชูสามนิ้วที่หน้าเสาธงต่อไปและติดโบว์ขาวไปโรงเรียนเพื่อแสดงออกถึงสิทธิเสรีภาพ ทั้งนี้ หากใครถูกคุกคามหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน ขอให้โทรศัพท์แจ้งไปยังศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
ก่อนยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 18.30 น.ตัวแทนนักเรียนได้กล่าวขอบคุณนักแสดงสาวคือ นางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือทราย เจริญปุระ ที่เลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนในการชุมนุมครั้งนี้
ขณะที่ หนึ่งในตัวแทนนักเรียนที่กล่าวปราศรัย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่ากรณีที่นักเรียนถูกคุกคามจากการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิ่งที่เครือข่ายนักเรียนจะต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปเนื่องจากมีรายงานการคุกคามในหลายกรณี ส่วนการชุมนุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นอีกเมื่อไหร่นั้น ยังไม่อาจระบุได้
Credit : https://www.isranews.org/article/isranews-news/91320-schooldemocracy02.html